ปัญหาเส้นผมและหนังศีรษะก่อความรำคาญและเพิ่มระดับความไม่มั่นใจให้ใครหลายคนมาแล้ว และแม้จะพยายามใช้แชมพูหรือแฮร์โทนิคคอยช่วยบำรุงให้ผมขึ้นดกดำและลดการขาดหลุดร่วง แต่ก็ยังมีปัจจัยอื่น ๆ มากมายที่ไม่อาจแก้ได้ด้วยวิธีการเหล่านี้ หากใครอยากรักษาผมร่วงแบบเห็นผลถาวร ผมดกดำเหมือนธรรมชาติแบบระยะยาวโดยไม่ต้องใช้เครื่องสำอางปกปิด จะมีวิธีการไหนรองรับบ้าง ในบทความนี้ เราได้รวบรวมข้อมูลของ 4 วิธีการที่น่าสนใจมาให้อ่านกันแล้ว ดังนี้
FUE Shaven
วิธีการแรกเป็นการรักษาผมร่วงด้วยการย้ายเซลล์รากผมแบบมาตรฐาน โดยแพทย์จะโกนผมบริเวณท้ายทอย (Donor Area) ซึ่งเป็นบริเวณที่รากผมมีความแข็งแรงมากที่สุด จากนั้นจึงฉีดยาชาและเก็บกราฟผมมาปลูกในบริเวณที่ต้องการ โดยผู้รับบริการไม่จำเป็นต้องตัดหนังศีรษะแต่อย่างใด จึงเจ็บน้อยกว่า พักฟื้นเร็วกว่า และเหมาะกับทุกสภาพปัญหาเส้นผม แต่ข้อควรรู้คือเหมาะสำหรับคนที่พร้อมโกนผมบริเวณท้ายทอยเท่านั้น หากใครติดขัดเรื่องการทำงานหรือความมั่นใจควรปรึกษาแพทย์เพื่อหาแนวทางอื่น
FUE Non-shaven
เป็นวิธีการรักษาผมร่วงโดยการเก็บกราฟผมบริเวณท้ายทอยมาปลูกบริเวณที่ต้องการเช่นเดียวกันกับ FUE Shaven แต่ข้อดีคือแพทย์จะใช้เทคนิคอำพรางแผล ผู้มารับบริการไม่จำเป็นต้องโกนผมบริเวณท้ายทอยทั้งหมด แต่จะใช้การตัดเฉพาะส่วน นอกนั้นมีขั้นตอนเช่นเดียวกับแบบแรกหมดเลย จึงหมดกังวลเรื่องรอยแผลเป็นและทรงผมด้านหลัง สามารถกลับไปใช้ชีวิตประจำวันตามปกติได้รวดเร็วที่สุด แต่ต้องรักษากับแพทย์ที่มีความเชี่ยวชาญมาก ๆ เท่านั้น เนื่องจากการเก็บกราฟผมท่ามกลางผมยาวต้องใช้ความแม่นยำสูง
DHI Implanter
วิธีนี้เป็นการปลูกผมที่มีลักษณะคล้ายคลึงกับ 2 แบบแรก แต่แพทย์จะใช้เทคนิคการถนอมกราฟผมซึ่งเป็นเทคนิคขั้นสูงและต้องใช้เครื่องมือเฉพาะทางอย่าง DHI Implanter ในการคีบกราฟผม ซึ่งข้อดีของการรักษาผมร่วงด้วยวิธีนี้คือเซลล์รากผมจะถูกทำลายน้อยกว่าการใช้คีมหนีบทางการแพทย์แบบเดิม เพราะฉะนั้นจึงช่วยเพิ่มอัตราการติดและขึ้นของเส้นผมให้สูงขึ้น มั่นใจได้มากขึ้นในผลลัพธ์
Cell Plus
สุดท้ายเป็นวิธีการฉีดสเต็มเซลล์ของตัวเอง โดยแพทย์จะนำเนื้อเยื่อบริเวณท้ายทอยมาปั่นด้วยเครื่องมือพิเศษเพื่อสกัดเอาสเต็มเซลล์ออกมา จากนั้นจึงฉีดกลับเข้าไปยังบริเวณที่ต้องการให้ผมขึ้น สเต็มเซลล์จะเข้าไปกระตุ้นเซลล์รากผมให้แบ่งตัวตามธรรมชาติและงอกตามกระบวนการปกติ นิยมใช้กับคนที่มีปัญหาผมบางไม่มาก บางเป็นหย่อม ๆ หรือใช้เสริมกับเทคนิคการรักษาผมบางแบบอื่น ๆ เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น