ยางเรเดียลรถบรรทุก จากยี่ห้อ ‘ดีสโตน’ เป็นยางรถบรรทุกที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคย และคุ้นหูมากที่สุด แต่หลาย ๆ คน คงยังไม่ค่อยแน่ใจนัก ว่ายางเรเดียล คือยางอะไรกันแน่ ต่างจากยางปกติอย่างไร และทำไมจึงควรเลือกใช้ ยางเรเดียลรถบรรทุกจากดีสโตน
ยางธรรมดา VS ยางเรเดียล
ยางธรรมดา เป็นยางที่ใช้กันทั่วไป มีชั้นผ้าใบทับซ้อนกันไปมาหลายชั้นเป็นตัวสร้างความแข็งแรงให้กับยาง มีข้อดีที่โดดเด่นคือความสามารถในการบังคับควบคุมทิศทางได้ดี เลี้ยวง่ายแม้ขับด้วยความเร็วต่ำ ขับขี่แล้วให้ความรู้สึกนุ่มนวล และมีราคาไม่แพง แต่จะมีความทนทานน้อยกว่า หากถูกของมีคมตำก็จะมีโอกาสแตกหรือระเบิดมาก
ยางเรเดียล เป็นยางที่นิยมใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ตัวยางจะมีโครงสร้างเป็นชั้นผ้าใบพันด้วยยางโดยรอบ มีดอกยาง และใต้ดอกยางก็ยังมีการเสริมแถบใยเหล็กเพื่อเสริมความแข็งแกร่งด้วยในการยึดเกาะถนนอีกด้วย ยางเรเดียลนั้นจะมีความยืดหยุ่นสูง แข็งแรง แต่ก็จะมีราคาแพงกว่ายางธรรมดา
ด้วยคุณสมบัติของยางเรเดียลที่ทั้งหนา ทนทาน และแข็งแรงกว่ายางธรรมดา จึงถูกใช้ในพาหนะขนาดใหญ่อย่างรถบรรทุกนั่นเอง ในต่อมายางเรเดียลจึงมักถูกเรียกว่ายางเรเดียลรถบรรทุก นั่นเอง และ ดีสโตน (Deestone) ก็เป็นหนึ่งในผู้ผลิตและจำหน่ายยางเรียลที่มีคุณภาพสูง และได้รับความนิยมมากที่สุดยี่ห้อหนึ่งเลยก็ว่าได้
วันนี้เราจะมาคุณมาดูกันว่า ยางเรเดียลรถบรรทุกของดีสโตนนั้นมีดีอย่างไร โดดเด่นกว่ายี่ห้ออื่น ๆ อย่างไร ราคาประมาณเท่าไหร่
ทำไมต้องยางเรเดียลรถบรรทุกดีสโตน
ดีสโตน เป็นบริษัทผู้ผลิตยางที่ก่อตั้งมานานกว่า 30 ปี และผลิตยางที่ได้มาตรฐานนานาชาติออกมาเสมอ สินค้าถูกขายไปทุกทวีปทั่วโลก และได้รับความไว้วางใจมากด้วยยอดขายกว่า 4 ล้านเส้นต่อปีทั่วโลก ทำให้ยางเรเดียลรถบรรทุกของดีสโตนมีการันตีคุณภาพติดตัว ผลิตด้วยวัตถุดิบคุณภาพสูงและมีกระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐาน ยางและดอกยาง ออกแบบมาเพื่อให้รถบรรทุกสามารถขับได้อย่างดี และเพิ่มความปลอดภัยให้กับการขับขี่ด้วยการออกแบบดอกยางที่เพิ่มการยึดเกาะถนน แถมยังมีการทดสอบความแข็งแรงของยาง ความคงทนของยาง และเครื่องวัดค่าแรงของยางก่อนจะจัดจำหน่ายด้วย
แม้ว่ายางเรเดียลรถบรรทุกของดีสโตนจะมีกระบวนการผลิต และคุณภาพยางสูง แต่มีราคาที่ย่อมเยา และมักมีการจัดรายการส่งเสริมการขายด้วยการลดราคาอยู่เสมอ โดยราคาของยางเรเดียลรถบรรทุกดีสโตน จะแตกต่างกันไปแล้วแต่รุ่นของยาง และเริ่มต้นเพียงประมาณ 4,500 บาทต่อเส้นเท่านั้นเอง แต่ในบางรุ่นพิเศษ ก็อาจราคาสูงถึงหลักหมื่นได้เช่นกัน