วันนี้ (17 พ.ค.2564) นายอายุตม์ สินธพพันธุุ์ อธิบดีกรมราชทัณฑ์ เปิดเผยว่า จากการตรวจคัดกรองเชิงรุกกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำ และทัณฑสถานในพื้นที่เสี่ยงพบว่าข้อมูลวันนี้มีผู้ติดเชื้อวันเดียวจำนวน 6,853 คน โดยกรมราชทัณฑ์ ได้สั่งใช้มาตรการ ให้มีการเติมคลอรีนลงในอ่างอาบน้ำเรือนจำทั่วประเทศ และให้ผู้บัญชาการเรือนจำทั่วประเทศ ดูกลุ่มผู้ต้องขังกลุ่มมีความเสี่ยงสูงก่อน เช่น อายุ 60 ขึ้นไปมีโรคประจำตัวให้แยกออกมาก่อนทันที ให้เจ้าหน้าที่เรือนจำสวอปตรวจเชื้อ 100% ทุกๆ 7 วัน
ทั้งนี้จากข้อมูลที่รายงาน ระหว่างวันที่ 12-16 พ.ค.นี้ มีผู้ต้องขังติดเชื้อรวมทั้งหมด 9,783 คนจาก 8 เรือนจำ ประกอบด้วย
– เรือนจำกลางเชียงใหม่ ติดเชื้อ 3,929 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 6,469 คน
– ทัณฑสถานหญิงกลาง ติดเชื้อ 1,039 คน จากจำนวนต้องขังทั้งหมด 4,488 คน
– เรือนจำพิเศษกรุงเทพ พบติดเชื้อ 1,960 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 3,023 คน
– เรือนจำกลางคลองเปรม ติดเชื้อ 1,016 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 8,088 คน
– เรือนจำกลางฉะเชิงเทรา ติดเชื้อ 43 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 2,671 คน,
– เรือนจำพิเศษธนบุรี พบติดเชื้อ 1,725 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 4,015 คน
-ทัณฑสถานบำบัดพิเศษกลาง ติดเชื้อ 12 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 5,876 คน
– เรือนจำจังหวัดนนทบุรี ติดเชื้อ 59 คน จากจำนวนผู้ต้องขังทั้งหมด 2,661 คน
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า ที่ผ่านมาหลังจากมีการระบาดของ COVID-19 ในระลอกแรกมีการติดเชื้อตัวเลขไม่กี่คน และมีการใช้นโยบายคนในห้ามออก คนนอกห้ามเข้า กระทั่งการระบาดระลอกเดือนเม.ย.นี้ เริ่มพบติดเชื้อในกลุ่มผู้ต้องขังในเรือนจำแบบก้าวกระโดดจากหลักร้อย เป็นหลักพันคน และสอดคล้องกับการอัตราการติดเชื้อภายนอกเรือนจำทั่วประเทศ ซึ่งกรมราชทัณฑ์มีเรือนจำ 143 แห่ง ในเรือนจำมีตัวเลขผู้ต้องขัง 3.8 แสนคน
ทั้งนี้ยอมรับว่าเรือนจำเป็นสถานที่ปิดน่าคุมโรคได้ง่าย น่าจะสงบได้ง่าย แต่ข้อเท็จจิริงมีเจ้าหน้าที่ไปขึ้นศาล และต้องนำตัวผู้ต้องขังไปขึ้นศาลด้วย รวมทั้งการรับผู้ต้องขังรายใหม่ที่เข้าออกเรือนจำ เข้าในห้องกักโรค รวมทั้งการทำกิจวัตรประจำวัน
“ยืนยันไม่ได้ปกปิดข้อมูล สาเหตุที่มีการติดเชื้อแบบก้าวกระโดด เพราะเมื่อมีผู้ติดเชื้อต้องรายงานกระทรวงสาธารณสุขแล้ว และต้องมาตรวจเชิงรุกแบบ 100% จึงมีตัวเลขสูงอย่างน่าตกใจ ตัวเลขปรากฎตามนั้น”
อธิบดีกรมราชทัณฑ์ กล่าวอีกว่า ขณะนี้พบการติดเชื้อในราชทัณฑ์ต่างๆ 15 แห่งแล้ว ส่วนที่ยังไม่พบการติดเชื้อ จะมีการสวอปหาเชื้อในกลุ่มเจ้าหน้าที่เรือนจำทั้ง 100% ในกรณีที่ไม่พบผู้ติดเชื้อให้ ผบ.เรือนจำไปหาผู้ต้องขังที่มีอาการเช่น ไอ น้ำมูกคัดกรองและประสานผู้ว่าและสาธารณสุข มาตรวจหาเชื้อในเรือนจำให้ได้ 100%
“จะประสานกรมควบคุมโรคให้ฉีดวัคซีนครบ 100% มีการประสานขอวัคซีน และยาต้านไวรัส และเริ่มเตรียมจัดหาโรงพยาบาลสนามในเรือนจำ และรักษาผู้ติดเชื้อทุกคนอย่างดี”