น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) กล่าวถึงกรณี น.ส.อรุณี กาสยานนท์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (พท.) วิจารณ์รัฐบาลขัดแย้งแนวนโยบายกันเอง กลับไปกลับมากรณีชะลอการเปิดให้วอล์กอินฉีดวัคซีน ทำประชาชนขาดความเชื่อมั่น ว่า กรณีที่เกิดขึ้นไม่กระทบต่อความเชื่อมั่นเรื่องนี้เป็นข้อห่วงใยของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ที่ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและความรู้สึกของพี่น้องประชาชนมาเป็นอันดับแรก จึงได้ให้ข้อสังเกตในที่ประชุม ครม. เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาความสับสนหน้างาน ไม่ใช่เรื่องความขัดแย้งทางนโยบายแต่อย่างใด แต่ทั้งนี้ต้องบริหารจัดการให้พี่น้องประชาชนได้สะดวกและปลอดภัยที่สุดเพื่อไม่ให้เกิดเกิดความแออัดและความเสี่ยง ที่สำคัญหากประชาชนวอล์กอินเข้าไปยังสถานที่ฉีดวัคซีนแล้วในวันดังกล่าวทางหน่วยงานในแต่ละพื้นที่ไม่ได้จัดสรรวัคซีนสำรองเอาไว้ในปริมาณที่เพียงพอ อาจจะทำให้ประชาชนผิดหวังและอาจเกิดช่องว่างให้กลุ่มผู้ไม่หวังดี ยุยงให้เกิดความเข้าใจผิดเกี่ยวกับวัคซีนอีกได้ ทั้งที่รัฐบาลยืนยันว่าได้จัดหาวัคซีนไว้ในปริมาณที่เพียงพอสำหรับพี่น้องประชาชนทุกคน
น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า การวอล์กอินมาเพื่อรอการฉีดวัคซีนโดยไม่ได้ลงทะเบียนนั้น สังคมได้วิจารณ์ว่าอาจก่อให้เกิดความแออัดและไม่ปลอดภัย เพิ่มความเสี่ยงที่จะติดเชื้อ ตรงนี้จึงเป็นส่วนสำคัญที่รัฐบาลกำชับให้ดูแลให้รอบคอบ ซึ่งประชาชนส่วนมากไม่เข้าใจเจตนาของนักการเมืองที่พยายามยุยงหรือเพียงต้องการให้เกิดภาพโกลาหลหรืออย่างไร ไม่สนใจว่าสุขภาพของประชาชนจะเสี่ยงแค่ไหน ดังนั้นเชื่อว่าพี่น้องประชาชนพร้อมเข้าใจ หากฝ่ายค้านไม่พยายามเสี้ยม ที่ผ่านมาพบว่ามีกระบวนการดิสเครดิตวัคซีนที่รัฐบาลจัดหา และบิดเบือนเรื่องผลข้างเคียงจากการฉีดวัคซีนมาโดยตลอด ซึ่งมีความมุ่งหวังเพื่อโค่นล้มรัฐบาล โดยไม่คำนึงถึงชีวิตของพี่น้องประชาชน ทั้งนี้จำนวนการจัดสรรและกระจายวัคซีนมีการเผยแพร่ให้ประชาชนทราบและอัปเดตข้อมูลทุกวันตลอดเวลาทั้งทาง ศบค. และเว็บไซต์ของกรมควบคุมโรค จึงอยากให้โฆษกพรรคเพื่อไทยศึกษาข้อมูลตามความเป็นจริง ไม่ควรวิจารณ์จากข้อมูลพื้นฐานที่ได้ยินมาโดยไม่มีการตรวจสอบ
“วันนี้กระแสความตื่นตัวของพี่น้องประชาชนต้องการฉีดวัคซีนเป็นจำนวนมาก ยอดจองผ่านระบบหมอพร้อมถึง 7.34 ล้านคนแล้ว เพราะประชาชนเกิดความเชื่อมั่นในประสิทธิภาพของวัคซีน ไม่เฉพาะบรรดาคนที่มีชื่อเสียงที่ประชาชนรู้จักที่ต่างมั่นใจพากันไปฉีดวัคซีนโดยไม่ลังเลตามคำยุแยงให้ไขว้เขว ให้เลือกยี่ห้อนั้นยี่ห้อนี้ ประชาชนต่างศึกษาข้อมูล เชื่อคุณหมอ และมั่นใจว่าวัคซีนที่ดีที่สุดคือวัคซีนที่ฉีดได้เร็วที่สุด”
ส่วนที่โฆษกพรรคเพื่อไทยเสนอให้ใช้เขตเลือกตั้งเป็นจุดบริการวอล์กอินฉีดวัคซีนนั้น น.ส.ทิพานัน กล่าวว่า ความเห็นดังกล่าว สะท้อนว่าไม่ได้ศึกษาข้อมูลมาอย่างแท้จริง ยึดติดแต่รูปแบบเดิม ขาดการพัฒนาไปในทางที่ดีขึ้น เนื่องจากหน่วยเลือกตั้งในประเทศไทยนั้นมีแสนกว่าหน่วยทั่วประเทศ และกระบวนการในการฉีดวัคซีนนั้นมีขั้นตอนที่มากกว่าว่าการลงคะแนนเลือกตั้งมากกว่า ซึ่งต้องใช้บุคลากรวิชาชีพทางการแพทย์เป็นจำนวนมากต่างกับอาสาสมัครประจำคูหาเลือกตั้ง อีกทั้งคนไปใช้สิทธิเลือกตั้งเมื่อเข้าคูหาหย่อนบัตรแล้วก็ออกไป แต่คนเข้ามารับบริการฉีดวัคซีนเสร็จแล้วต้องนั่งพักดูอาการเป็นเวลาครึ่งชั่งโมง มีการตรวจวัดไข้ นอกจากจะต้องจัดโซนพื้นที่สำหรับนั่งรอดูอาการยังต้องมีบุคคลากรรองรับในส่วนนี้ด้วย และที่สำคัญหน่วยเลือกตั้งใช้ฐานข้อมูลประชากรจากทะเบียนราษฎร์ซึ่งประชาชนเป็นจำนวนมากมีที่อยู่อาศัยจริงไม่ตรงกับทะเบียนราษฎร์ หากต้องให้ประชาชนเคลื่อนย้ายข้ามจังหวัดเพื่อรับวัคซีนให้ตรงตามทะเบียนราษฎร์ก็จะเป็นการสร้างภาระให้ประชาชนและเสี่ยงแพร่กระจายเชื้อ
“ดังนั้นข้อเสนอของโฆษกพรรคเพื่อไทยจึงเป็นเรื่องเพ้อเจ้อที่ไม่สามารถปฏิบัติได้จริง เหมือนกับความเห็นที่ผ่านๆ มาที่ไร้หลักการและเลื่อนลอย ไม่มีข้อมูลที่ถูกต้อง”