นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้กล่าวถึงกรณีที่ ส.ส. พปชร.หลายคนรวมกันแถลงแล้วมีหลายส่วนพาดพิงในส่วนพรรคว่า หลักการที่ดีในการอยู่ร่วมกัน คือต้องให้เกียรติกันบนพื้นฐานของความถูกต้อง การติติงในส่วนบุคคลสามารถทำได้ แต่การมาบิดเบือนใส่ร้ายพรรคอย่างนี้ไม่ถูกต้อง
นายราเมศ กล่าวว่า ความจริงแล้วการส่งผู้สมัครของแต่ละพรรคในการเลือกตั้งซ่อมเขต 3 จ.นครศรีธรรมราช ก็สามารถทำได้อยู่แล้ว แต่การจะมาบิดเบือนข้อเท็จจริงว่าโดยมรรยาททางการเมืองพรรคประชาธิปัตย์ไม่ควรส่งลงในเขตนี้ โดยอ้างว่าเคยทุจริตนั้น เป็นการบิดเบือนเพราะที่ นายเทพไท เสนพงศ์ ถูกตัดสิทธิ์เป็นคดีศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนคดีอาญาที่ศาลตัดสินเป็นเรื่องการเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครศรีธรรมราช ปี 2556 ที่ไม่เกี่ยวข้องกับพรรค คดีนายเทพไท เสนพงศ์ ยังไม่ถึงที่สุด อยู่ในชั้นศาลอุทธรณ์ คดีดังกล่าวไม่เกี่ยวข้องกับพรรค และไม่เกี่ยวข้องกับคดีเลือกตั้งในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครศรีธรรมราช แต่อย่างใด
แล้วมี ส.ส. พปชร.คนหนึ่งบอกว่าถ้าพรรคประชาธิปัตย์ไม่ทุจริตในการเลือกตั้งที่ผ่านมา พปชร.ได้ที่หนึ่งในเขตนี้ไปแล้ว บิดเบือนใส่ร้ายพรรค เพราะการเลือกตั้งที่ผ่านมาในเขตเลือกตั้งที่ 3 จ.นครศรีธรรมราช ไม่ได้มีการทุจริต ถ้าทุจริต กกต.คงไม่ปล่อยมาถึงทุกวันนี้ ประเด็นนี้พรรคประชาธิปัตย์เสียหาย เพราะเป็นการใส่ร้าย อย่าเล่นการเมืองแบบสามหาว ผู้ใหญ่ในพรรค พปชร.ควรเตือนบุคคลเหล่านี้
เมื่อผู้สื่อข่าวถามว่า ฝ่ายกฎหมายมีความเห็นว่าอย่างไร นายราเมศ กล่าวว่า ไม่อยากให้เป็นประเด็นใหญ่โต มีเวลาอีกพอสมควร ที่จะดูเรื่องนี้ ส่วนกรณีส่งผู้สมัครในนามพรรคในการเลือกตั้งในเขต 3 นั้น กระบวนการของพรรคจะเสร็จสิ้นในวันที่ 5 กุมภาพันธ์นี้
.