รศ.ดร.เจษฎา เด่นดวงบริพันธ์ อาจารย์ประจำภาควิชาชีววิทยา คณะวิทยาศาสตร์ จุฬาฯ และนักสื่อสารวิทยาศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก ระบุว่า…ใจเย็นครับ หนุ่มสาวคนโสดทั้งหลาย รูปปั้นบูชาหน้าเซ็นทรัลเวิลด์นั้นไม่ใช่พระตรีมูรตินะครับ แต่เป็นพระศิวะ 5 เศียร !!
เมื่อคืนมีรายงานข่าวว่าตอนหัวค่ำมีพิธีบวงสรวงพระตรีมูรติ ที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิร์ล ถนนราชดำริ โดยมีผู้คนแห่แหนกันไปร่วมงานเยอะมากกก ซึ่งก็มักจะเป็นคนที่ยังโสดอยู่ และตั้งใจมาสักการะเพื่อขอพรให้พบคู่ ปัญหาคือ รูปปั้นที่ไปศักการะบูชากันที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้น ไม่ใช่พระตรีมูรติแต่อย่างไรครับ !!
1. จริงๆ แล้ว เทวรูปที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์นั้น เป็นรูป “พระสทาศิวะ” หรือ “พระสดาศิวะ” หรือ “พระศิวะปัญจมุขี” ที่เป็นปางมี 5 เศียร แต่มีการประชาสัมพันธ์กันจนทำให้คนส่วนใหญ่มักเข้าใจผิดว่าเป็น”พระตรีมูรติ”
– พระสทาศิวะนั้น จะมี 5 เศียร มีดวงจันทร์อยู่บนพระเกษาบนสุด ซึ่งเป็นสัญลักษณ์ของพระศิวะ ในศิลปะแบบรัตนโกสินทร์นั้นจะให้มี 4 กร (ถ้าแบบอินเดียและขอม จะให้ตั้งแต่ 4 ถึง10 กร) โดยได้รับอิทธิพลมาจากศิลปะสมัยอยุธยา ซึ่งก็รับมาจากศิลปะขอมอีกทอดหนึ่ง
– ส่วนพระตรีมูรติ จะมี 3 เศียร 6 กร และถือเทพอาวุธและคัมภีร์ โดยเป็นการรวมองค์มหาเทพทั้งสามของฮินดู คือ พระพรหม พระศิวะ พระนารายณ์ ไว้ด้วยกัน
2. รูปพระสทาศิวะ ที่หน้าห้างเซ็นทรัลเวิลด์ (แต่เรียกกันว่าพระตรีมูรติ) นี้ เดิมพบอยู่ที่วังเพชรบูรณ์ ซึ่งเป็นที่ตั้งของห้างในปัจจุบัน
– ห้างเวิลด์เทรดเซ็นเตอร์ (ชื่อก่อนที่จะเปลี่ยนมาเป็น เซ็นทรัลเวิลด์ ในปัจจุบัน) ได้ถูกสร้างขึ้นบนพื้นที่วังเพ็ชรบูรณ์นั้น และเปิดให้บริการเมื่อปี พ.ศ.2533 แต่ผลประกอบการไม่ดี มีอุปสรรค และมีคำเล่าลือเรื่องอาถรรพ์ ทำให้กลุ่มตระกูลเจ้าของห้าง ได้พยายามตามหารูปพระตรีมูรติองค์หนึ่ง ที่เชื่อกันว่าสร้างในสมัยพระนเรศวร และรัชกาลที่ 4 ทรงได้เคยนำรูปพระตรีมูรตินั้นมาประดิษฐานไว้ ก่อนจะสูญหายไป
– ว่ากันว่ากลุ่มตระกูลดังกล่าว สามารถควานหารูปพระตรีมูรติองค์ที่ว่ากลับมาจนได้ และได้ทำองค์เทวรูปจำลองประดิษฐานไว้ที่หน้าห้างของตน
– แต่มีเรื่องเล่าว่าครั้งหนึ่งทางเซ็นทรัลเวิลด์ได้เชิญพระราชครูวามเทพมุนี มาประกอบพิธีโดยระบุว่าเป็นการย้ายองค์พระตรีมูรติ แต่ทางพระราชครูวามเทพมุนี ไม่ทำให้ เพราะองค์นี้ไม่ใช่พระตรีมูรติ แต่เป็นรูปพระสทาศิวะ
3. แล้วพระสทาศิวะ เกี่ยวข้องกับเรื่องความรักหรือไม่
– อาจารย์คมกฤช อุ่ยเต็กเค่ง ภาควิชาปรัชญา คณะอักษรศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร ได้เคยเขียนบทความบอกว่า การบูชาพระสทาศิวะนั้นไม่เกี่ยวข้องกับเรื่องความรัก เพราะคนฮินดูจะเอาเรื่องความรักไปผูกไว้กับกามเทพ (แต่เป็นเชิงอุปมาอุปไมยในทางกวี)
– แถมพระศิวะนั้นเป็นศัตรูกับกามเทพด้วย เพราะกามเทพเคยมาพยายามทำให้พระองค์ตกหลุมรักพระแม่ปารวตี พระกามเทพจึงโดนไฟกรดจากเนตรที่สามของพระศิวะเผาจนเป็นจุณ พระศิวะจึงมีอีกพระนามว่า ผู้เผากามเทพ
– ส่วนชาวบ้านอินเดีย เวลาจะขอพรเรื่องคู่ครองนั้น เขาจะกราบไหว้ขอไปทั่ว ไม่ได้เฉพาะเจาะจงเทพองค์ใด ถ้าคนๆ นั้นนับถือเทพองค์ไหน ก็จะไปขอพรกับองค์นั้น (ซึ่งมักจะนิยมเข้าหาเจ้าแม่ทั้งหลาย)
4. สำหรับเทวรูป “พระตรีมูรติ” ที่ถูกต้องตามเทวลักษณะ จะมีประดิษฐานอยู่ที่ศาลพระตรีมูรติ ข้างๆ ตึก EMPIRE TOWER (หรือ EM SPACE) ซึ่งสามารถนั่งรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีช่องนนทรี แล้วเดินไปหน่อยครับ
– แถมด้วยความเชื่อสายมู (ฮะๆๆ) ว่า ท่านที่เชื่อเรื่องทำนองนี้ก็ให้ขอพรได้ทุกเรื่อง ไม่ใช่เฉพาะเรื่องความรัก เนื่องจากพระตรีมูรติเป็นการรวมกันของพระพรหม พระนารายณ์ และพระศิวะ สามารถสักการะได้ทุกวัน ไม่ต้องเน้นฤกษ์เน้น
ปล. ความเห็นส่วนตัวนะ เรื่องมีคู่ในยุคนี้ คงต้องเปิดใจกว้างขึ้น ออกไปพบผู้คนมากขึ้น รอให้เข้ามาเองท่าทางจะลำบากครับ ฮะๆ
.