ที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พนักงานสอบสวน สน.ยานนาวา นำตัวนายปัณณพัทธ์ จันทนางกูล อายุ19 ปี และนายเกียรติศักดิ์ พันธ์เรณู อายุ 20 ปี ผู้ต้องหากลุ่มการ์ดวีโว่ ที่ร่วมกันชุมนุมต่อต้านการรัฐประหารหน้าสถานทูตเมียนมา ยื่นคำร้องฝากขังครั้งแรก เป็นเวลา 12 วันตั้งแต่วันที่ 2-13 กุมภาพันธ์นี้ เนื่องจากยังต้องสอบพยานอีก 5 ปาก รอผลการตรวจสอบพิมพ์มือผู้ต้องหา และอื่นๆ
พนักงานสอบสวน ระบุพฤติการณ์สรุปว่า เมื่อวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2564 ประเทศสาธารณรัฐแห่งสหภาพเมียนมาได้เกิดเหตุการณ์รัฐประหารขึ้น ต่อมาเวลา 14.45 น.ของวันเดียวกัน ประชาชนชาวเมียนมาที่อยู่ในประเทศไทยเกิดความไม่พอใจ จึงได้ออกมารวมตัวประท้วงกันบริเวณหน้าสถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย เพื่อต่อต้านการรัฐประหาร
ต่อมาได้มีกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 50-60 คน ได้มาชุมนุมปราศรัยเรียกร้องและต่อต้านการรัฐประหารในประเทศเมียนมา หน้าสถานทูตเมียนมา เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องเข้าไปดูแลความเรียบร้อยในพื้นที่ชุมนุมและบริเวณใกล้เคียง ต่อมา ผกก.สน.ยานนาวาได้ประกาศแจ้งเตือนให้ นายวิชพรรษ ศรีกสิพันธุ์ ผู้ถูกจับที่ 1 (ส่งศาลแขวงกรุงเทพใต้)
นายปัณณพัทธ์ และนายเกียรติศักดิ์ รวมทั้งกลุ่มผู้ชุมนุมคนอื่นให้เลิกตามเวลาที่กำหนด แต่ปรากฏว่าผู้ต้องหากับกลุ่มผู้ชุมนุมฝ่าฝืนไม่ยอมเลิกการชุมนุมในเวลาที่กำหนด เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนจึงได้เข้ากระชับพื้นที่ผลักดันให้กลุ่มผู้ชุมนุมเลิกการชุมนุม
กระทั่งเวลา 17.00 น. ขณะที่เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังกระชับพื้นที่กลุ่มผู้ชุมนุม
นายปัณณพัทธ์ และนายเกียรติศักดิ์ ได้ร่วมกันขว้างปาก้อนอิฐ ก้อนหิน ประทัดลูกบอล ควันและพลุสีเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน จากนั้นกลุ่มผู้ชุมนุมประมาณ 30 คน รวมทั้งนายปัณณพัทธ์ และนายเกียรติศักดิ์ ยังได้เข้าร่วมใช้กำลังด้วยการขว้างปาขวดน้ำ กรวยยาง หิน ก้อนอิฐใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน และยังใช้ท่อนเหล็กทุบตีแผงโล่ควบคุมฝูงชนจนได้รับความเสียหาย นอกจากนั้นมีการใช้ท่อนเหล็ก ตีและใช้แผงเหล็กทุ่มใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนอีกด้วย
การกระทำดังกล่าวเป็นเหตุให้เจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชนได้รับบาดเจ็บจำนวน 14 คน จึงจับกุม ผู้ต้องหาที่ 1 ถึง 3 นำตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ยานนาวาดำเนินคดี โดยพนักงานสอบสวนได้แยกดำเนิน นายวิชพรรษ ศรีกสิพันธุ์ ไปผัดฟ้องฝากขังที่ศาลแขวงพระนครใต้ โดยกล่าวหาว่า “ มั่วสุมกันตั้งแต่สิบคนขึ้นไปใช้กำลังประทุษร้ายขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายหรือกระทำการอย่างหนึ่งอย่างใดให้เกิดการวุ่นวายในบ้านเมืองโดยผู้กระทำผิดคนใดคนหนึ่งมีอาวุธ, ร่วมกันต่อสู้หรือขัดขวางเจ้าพนักงานในการปฏิบัติการตามหน้าที่โดยใช้กำลังประทุษร้ายหรือขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังประทุษร้ายโดยมีหรือใช้อาวุธหรือโดยร่วมกระทำความผิดด้วยกันตั้งแต่สามคนขึ้นไป, ร่วมกันทำร้ายร่างกายเจ้าพนักงานซึ่งกระทำการตามหน้าที่จนเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่กายหรือจิตใจ ,ร่วมกันฝ่าฝืน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548 มาตรา 9 (2)”
ชั้นสอบสวนผู้ต้องหาให้การปฏิเสธตลอดข้อกล่าวหา
ท้ายคำร้องพนักงานสอบสวนขอค้านการให้ประกันตัวเนื่องจากผู้ต้องหามีที่อยู่ไม่เป็นหลักแหล่งหากให้ประกันตัวเชื่อว่าผู้ต้องหาน่าจะหลบหนี ศาลพิจารณาคำร้องและสอบถามผู้ต้องหาแล้วไม่คัดค้าน จึงอนุญาตให้ฝากขังได้
.