Skip to content
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา

ข่าวฟ้ายามเย็น

‘เต้น’ อวดภูมิฉายภาพ 3 ป. ฟันธงเลือกตั้งครั้งหน้า พปชร.ไร้ “ประยุทธ์”

21 กันยายน 2564

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ เลขาธิการ นปช. และแกนนำเครือข่ายไล่ประยุทธ์ โพสต์ข้อความแสดงความเห็นทางการเมืองผ่านทางเฟซบุ๊ก มีเนื้อหาดังนี้… “หลังศึกอภิปรายไม่ไว้วางใจ การสั่งปลด ร.อ.ธรรมนัส และนางนฤมล พ้นเก้าอี้รัฐมนตรี ถือเป็นการตอบโต้อย่างหนักหน่วงฉับพลันทันทีโดย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ข้อหาที่ทั้งสองคนโดนในทางการเมืองเรียกว่า “ข้อหาพยายามฆ่า” หมายถึงการเดินเกมลึกลับซ้อนซ้อนบนดินใต้ดิน จะพลิกมติเป็นไม่ไว้วางใจนายกรัฐมนตรี

คอการเมืองเชื่อกันว่าแม้ ร.อ.ธรรมนัส จะกล้ามใหญ่ขึ้นทุกวัน แต่ทำอย่างนี้ไม่ได้ถ้าหากไม่มีแบคอัพเป็นกำลังสำคัญระดับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ ดังนั้นงานนี้จึงมีภาพความปริร้าวในกลุ่ม 3 ป. มีปัญหาความสัมพันธ์ระหว่างพรรคพลังประชารัฐและอำนาจในรัฐบาล

ที่จริงจะไปมองว่าฝ่าย พล.อ.ประวิตร , ร.อ.ธรรมนัส และพวกลงมือก่อน ก่อเหตุพยายามฆ่าทางการเมืองขึ้นก่อนก็ไม่ถูกนัก เพราะก่อนหน้านี้มีกระแสข่าวบิ๊กในรัฐบาลมอบหมายปลัดกระทรวงใหญ่ชื่อย่อ “ฉ” เดินสายตั้งพรรคการเมือง ธรรมดาของ “ฉ” ตีดัง การเดินสายตั้งพรรค คนเขารู้กันทั้งประเทศ

ในวินาทีที่ พล.อ.ประวิตร กุมบังเหียนพรรคพลังประชารัฐ เป็นฐาน เป็นนั่งร้านให้ พล.อ.ประยุทธ์บนเก้าอี้นายกรัฐมนตรี กลับมีข่าวน้อง 2 ป. มอบหมายปลัด “ฉ” ไปตั้งพรรคใหม่ขึ้นมาแบบนี้ นี่คือข้อหาพยายามเขี่ยพี่ใหญ่ใช่หรือไม่?

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นในช่วงอภิปรายไม่ไว้วางใจจึงไม่ใช่เรื่องใหม่ แต่เป็นเรื่องที่คุกรุ่นภายในอยู่นานจนเห็นควันจากปล่อยภูเขาไฟ 

เมื่อมีการพยายามเขี่ย ก็ต้องมีการพยายามฆ่า  เรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป หลายคนฟันธงว่าอำนาจรัฐนี้คงจะอยู่ได้อีกไม่นาน พอ พล.อ.ประยุทธ์กระชับอำนาจรัฐบาล พล.อ.ประวิตรก็กระชับอำนาจพรรคพลังประชารัฐทันทีเหมือนกัน

ข่าววงในว่ากันว่าตำแหน่งประธานกรรมการยุทธศาสตร์พรรคพลังประชารัฐ แท้จริงแล้ว พล.อ.ประยุทธ์ คิดอ่านจะเข้ามานั่งเพื่อกระชับสัมพันธ์กับ ส.ส.ในพรรคด้วยซ้ำไป แต่ พล.อ.ประวิตรใช้อำนาจหัวหน้าพรรคประกาศแต่งตั้ง พล.อ.วิชญ์ เทพหัสดิน ณ อยุธยา ขึ้นมานั่งทันที คำสั่งนี้ปรากฏทางสื่อมวลชนในช่วงกลางคืน อะไรมันจะด่วนขนานนั้น  นี่เรียกว่าเป็นเกมทันกันของทั้งสองฝ่าย

เมื่อล้วงมือเข้ามาในพรรคไม่ได้ พล.อ.ประยุทธ์ก็แก้เกมโดยการเดินสายพบปะประชาชน ลงพื้นที่ถี่ยิบอย่างกับเลือกตั้ง อาจมองได้ว่าการลงพื้นที่ที่จะทำให้สัมพันธภาพระหว่างนายกรัฐมนตรีกับ ส.ส.ในพรรคใกล้ชิดแนบแน่นมากขึ้น แต่ในสายตาผมเห็นว่านี่จะยิ่งตอกย้ำความแปลกแยกแตกต่าง และอาจจะขยายความขัดแย้งภายในพรรคประชารัฐมากกว่า

เพราะถ้าดูพื้นที่ที่ พล.อ.ประยุทธ์เลือกลงพบปะประชาชน ชลบุรี ชัยนาท สุโขทัย ล้วนแล้วแต่เป็นจังหวัดที่ยืนข้าง พล.อ.ประยุทธ์ในการอภิปรายไม่ไว้วางใจมาตั้งแต่ต้น ไม่มีพื้นที่ของส.ส.ในซีก พล.อ.ประวิตร หรือ ร.อ.ธรรมนัส ถ้าเดินต่อไปแบบนี้ ลองเดาดูซิครับว่าหัวใจหรือความรู้สึกของคนเป็นพี่ใหญ่หรือ ส.ส.ลูกทีมจะเป็นยังไง?

แม้นายทหาร 3 ป. จะมีความสัมพันธ์ส่วนตัวผูกพันกันกว่าค่อนชีวิต แต่ในทางการเมืองผมเชื่อว่าถ้ามีการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคพลังประชารัฐในมือ พล.อ.ประวิตร จะไม่มีแคนดิเดตชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”  พรรคการเมืองที่ปลัด “ฉ” เดินตั้ง น่าจะมีหัวหน้าพรรคชื่อ “อนุพงษ์ เผ่าจินดา” ส่วนจะมีแคนดิเดตนายกฯ ชื่อ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา” หรือไม่? เป็นเรื่องที่น่าติดตามกันต่อไป

สถานการณ์ความขัดแย้งแบบนี้อาจมองได้ว่าการยุบสภาหรือเปลี่ยนแปลงทางการเมืองคงเกิดขึ้นในระยะใกล้ แต่สายตาผมไม่เห็นแบบนั้น เพราะแม้จะมีความขัดแย้งกัน แต่ทั้งสองฝ่ายไม่ว่าจะซีก พล.อ.ประวิตร หรือซีก พล.อ.ประยุทธ์ กับ พล.อ.อนุพงษ์ รู้สึกตรงกันอยู่อย่างหนึ่ง คือ ไม่พร้อมที่จะสละอำนาจเพื่อเข้าสู่การเลือกตั้ง จะตีศอกโยนเข่ากันยังไง ทั้งสองฝ่ายยังเห็นว่าถืออำนาจไว้ก่อนยังไงก็ดีกว่า

แต่ในโลกของความเป็นจริง เมื่อความขัดแย้งทางอำนาจมันเกิดขึ้นในจุดศูนย์กลางของอำนาจ การจะรักษาและประคับประคองต่อไปเรื่อย ๆ เป็นเรื่องยาก โคตรยาก! ดังนั้นเจตนาของทั้งสองฝ่ายที่จะหักให้พังกันไปข้างหนึ่ง ไม่มี!  แต่สภาพนี้อุบัติเหตุทางการเมืองเกิดขึ้นได้ตลอดเวลาครับ

พล.อ.ประวิตร ประกาศห้ามหัวหน้าก๊วนหัวหน้ากลุ่มทั้งหลายดูแลส.ส. งานนี้เปิดท่อเพียงลำพังแต่ผู้เดียว ช่วงเลือกตั้งรับรองจะใจป้ำเหมือนเดิม 100%

ทางฝ่าย พล.อ.ประยุทธ์ได้ข่าวว่ามีการระดมกล้วยมหาศาล การอภิปรายไม่ไว้วางใจ การลงมติที่ผ่านมาถึงขนาด ส.ส.หลายคนเรอออกมาเป็นกล้วย ปรารภกับเพื่อน ส.ส.ด้วยกันว่า “ทั้งชีวิตตั้งแต่อยู่ในสภาไม่เคยยกมือไว้วางใจแล้วได้กล้วยมากมายขนาดนี้” การเมืองจากนี้ไปจึงเป็นเรื่องกล้วย ๆ ไม่ใช่ง่ายนะครับ แต่เยอะ

มองไปยาว ๆ ผมว่าสาย พล.อ.ประวิตรเอาพรรคพลังประรัฐอยู่ แต่ไม่รู้ พล.อ.ประยุทธ์กับพล.อ.อนุพงษ์จะสร้างพรรคใหม่และครองใจ ส.ส.ได้หรือไม่ เพราะธรรมชาติของสองคนนี้ โดยเฉพาะ พล.อ.ประยุทธ์มีความยโสลำพองในตัวเอง มองนักการเมืองจากการเลือกตั้งของประชาชนด้วยสายตาเหยียดต่ำตลอดมา

เกือบ 8 ปีในการเข้ามาสู่อำนาจ พล.อ.ประยุทธ์ไม่เคยให้ความใกล้ชิดสนิทสนมหรือสัมผัสลึกซึ้งใจแลกใจกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรมาก่อนเลย อยู่ ๆ จะมาพลิกเปลี่ยนกลับกลายชั่วข้ามคืน ผมว่าไม่ง่าย!

ไอ้ที่ลงพื้นที่ถี่ ๆ นานไปก็จะเห็นว่าปลอม ควักหัวใจ ส.ส.ที่ห้อมล้อมอยู่ออกมาดูก็จะรู้ว่าไม่ใช่เพราะประยุทธ์ แต่เพราะประโยชน์ที่อำนาจของประยุทธ์จะมอบให้  ผมไม่ได้ยุให้ทั้งสองฝ่ายทะเลาะกันนะครับ แต่ผมเห็นอย่างนั้นจริง ๆ  เส้นทางชีวิต เส้นทางอำนาจของ พล.อ.ประวิตร ต่างกับ พล.อ.ประยุทธ์กับ พล.อ.อนุพงษ์ อย่างมีนัยสำคัญ แม้ทั้งสามคนจะเข้าสู่ตำแหน่ง ผบ.ทบ.ได้เหมือนกัน แต่เส้นทางของ พล.อ.อนุพงษ์กับ พล.อ.ประยุทธ์คือการเข้าสู่ตำแหน่งสูงสุดในกองทัพด้วยบทละครของอำนาจนอกระบบที่ขีดไว้

หลังการเกษียณอายุราชการของ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน คนเข้าใจการเมืองเขียนชื่อผบ.ทบ.ล่วงหน้าไว้ได้ 2 คน คือ “อนุพงษ์ เผ่าจินดา” กับ “ประยุทธ์ จันทร์โอชา”

แต่สำหรับ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เส้นทางของเขายากยิ่งกว่านั้น คน ๆนี้เดินเข้าสู่ตำแหน่ง ผบ.ทบ.ในยุครัฐบาลพรรคไทยรักไทย นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร จุดนี้ชี้ให้เห็นว่า พล.อ.ประวิตรมีวิชาในการอยู่กับการเมือง, ในการร่วมงานกับพรรคการเมือง, ในการเข้าสู่กลไกอำนาจของฝ่ายการเมือง โดยที่อีกสองคนแทนไม่มีเลย

ดูแล้วเกมนี้เทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ พล.อ.ประวิตรจะเป็นรองน้องสองคนก็แค่เดินช้ากว่าเท่านั้นแหละครับ แต่ผมว่าการเดินเกมทางการเมืองไม่ได้ช้ากว่า ดูการขยับหมากในพรรคพลังประชารัฐ ทั้งตั้งประธานกรรมการยุทธศาสตร์และตั้งคณะทำงานฝ่ายกฎหมายก็แล้วกัน

ใครจะไปนึกว่าวันหนึ่งนายทหาร 3 ป. จะเดินมาถึงจุดนี้ แต่นี่คือคำสาปของอำนาจ เมื่อคนกลุ่มหนึ่งถืออำนาจยาวนาน วาสนา บารมี ผลประโยชน์ล้นเกิน ความขัดแย้งภายในก็ย่อมเปราะบางและเกิดขึ้นง่าย

ถ้าถามผมว่าจะเชียร์ใคร? ไม่ทั้งคู่แหละครับ ผมจะรอดูว่าจะจบลงแบบไหน แล้วฝายประชาธิปไตยจะสู้อย่างไรให้เกิดประโยชน์สูงสุดในการขับเคลื่อนประเทศไปข้างหน้า เอาว่าตั้งใจหักกันจนพังไปข้างถึงขั้นยุบสภาเร็ว ๆ ผมว่าไม่มี!

แต่ถ้าจะจบเร็ว ก็ด้วยอุบัติเหตุทางการเมืองจากความขัดแย้งแบบนี้แหละครับ และไม่ต้องห่วงนะครับว่าผมพูดแบบนี้แล้วฝ่ายโน้นเขาจะคิดได้ หันมาปรับความเข้าใจจูบปากกัน พวกนั้นเขาคิดได้เยอะกว่าผมอีกเพราะเขาอยู่ในเหตุการณ์  เรื่องราวมันเลยจุดนั้นมาแล้วครับ

แชร์กับเพื่อน

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

24 มิถุนายน 2565

“นฤมล” โชว์วิชั่นปฏิรูปเศรษฐกิจ ชี้ประกันราคา-จำนำข้าว สิ้นเปลืองมาก!!

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

จะปลื้มลูก … เกรงใจน้องบ้าง!! “ทักษิณ” โวคิดถูกเลือก “อุ๊งอิ๊ง” นำทัพเพื่อไทย

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

“ชัชชาติ” เบรก “ลูกชาย” อยู่ห่างๆ การเมือง 

อ่านต่อ
23 มิถุนายน 2565

ไพรวัลย์ชี้ “แจ้” เสียเพราะลูกศิษย์ แนะควรสึกไปใช้ชีวิตที่อยากทำจะดีกว่า

อ่านต่อ
23 มิถุนายน 2565

‘สุชาติ’ ซัด ‘บิ๊กตู่’ ไร้ความรับผิดชอบเป็นนักการเมืองสั่งแบบทหารไม่ได้

อ่านต่อ
23 มิถุนายน 2565

‘กรณ์-จุรินทร์’ จวกกันยับ!

อ่านต่อ
Facebook Youtube Line
บริษัทบลูสกายแชนแนล
  • 2170 อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ชั้น 8
    แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
    กรุงเทพมหานคร 10310
  • 02-308-0020
line-logo-100
Copyright © 2021