วันนี้ (29 ก.ย.) เวลา 11.00 น. ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.ปิยะ ต๊ะวิชัย รอง ผบช.น.ในฐานะโฆษก บช.น.กล่าวว่า ในวันนี้มีการนัดหมายชุมนุมทางการเมืองของ กลุ่มทะลุฟ้า เวลา 16.00 น. ที่แยกนางเลิ้ง แล้วเคลื่อนขบวนไปทำเนียบรัฐบาล บช.น.เตือนว่ากรุงเทพฯประกาศเป็นพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด การกระทำดังกล่าวเข้าข่ายความผิด “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ” ได้จัดกำลังตำรวจรักษาความสงบเรียบร้อย และอำนวยความสะดวกด้านการจราจรไว้แล้ว
สำหรับการชุมนุมของ 2 กลุ่ม เมื่อวานนี้ (27 ก.ย.) ที่แยกนางเลิ้ง เวลา 16.00 น. กลุ่มทะลุฟ้า ได้ปิดการจราจรบางส่วนแล้วนำถุงสีวางไว้บนถนน นำป้ายผ้ามาแขวนไว้บริเวณต่างๆ เวลา 17.00 น. ผู้ชุมนุมพยายามตัดและฝ่าฝืนรั้วลวดหนาม ที่ตำรวจวางไว้เป็นแนวป้องกันการบุกรุกเข้าไปทำเนียบฯ จึงประกาศแจ้งเตือนให้ยุติการชุมนุม เวลา 18.00 น. ตำรวจเข้าจับกุมผู้กระทำผิด 9 คน ดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ”
ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง เวลา 22.50 น. กลุ่มทะลุแก๊ส ได้ปิดการจราจรบริเวณถนนมิตรไมตรี จุดเพลิงเผาสถานที่ต่างๆ ระดมยิงพลุ ขว้างปาระเบิดใส่ตำรวจ และรถตำรวจจนเสียหาย 8 คัน ในจำนวน 2 คัน ถูกไฟไหม้วอดทั้งคัน 1 คัน และไหม้บางส่วน 1 คัน ดำเนินคดีข้อหา “ร่วมกันมั่วสุมตั้งแต่ 10 คนขึ้นไป กระทำให้เกิดการวุ่นวายขึ้นในบ้านเมือง, ร่วมกันวางเพลิงเผาทรัพย์ผู้อื่น, ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” หลังเกิดเหตุฝ่ายสืบสวน บก.สส.บช.น.ลงพื้นที่เก็บพยานหลักฐาน เบื้องต้นรู้ตัวผู้ก่อเหตุเผารถแล้ว ประมาณ 4-5 คน
ส่วนเหตุใดตำรวจไม่เลือกขับรถในเส้นทางอื่นทั้งที่รู้ว่ามีการชุมนุม ที่แยกสามเหลี่ยมดินแดง เพราะผู้ชุมนุมได้ก่อเหตุวางเพลิงเผาทรัพย์บริเวณดังกล่าว ตำรวจมีความจำเป็นต้องเข้าดับเพลิง เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดความเสียหายบานปลาย ระหว่างนั้นผู้ชุมนุมอาศัยจังหวะที่ตำรวจเตรียมปฏิบัติการเข้าทำร้ายตำรวจ ทั้งนี้ สรุปการดำเนินคดีตั้งแต่เดือน ก.ค.2564 รวมทั้งสิ้น 236 คดี มีผู้ต้องหา 878 ราย ติดตามจับกุมตัวได้แล้ว 633 ราย
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวต่อว่า กรณีมีการพ่นสีก่อให้เกิดความเสียหายแก่ทรัพย์สินของทางราชการ และเอกชนจะเป็นความผิดข้อหา “ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์” ส่วนกรณีที่ ป้าเป้า ถอดเสื้อผ้าเปลือยเปล่าต่อหน้าแนวตำรวจควบคุมฝูงชน (คฝ.) ที่แยกนางเลิ้ง ขณะนี้ตำรวจ สน.นางเลิ้ง อยู่ระหว่างออกหมายเรียกเข้ารับทราบข้อหา “ผู้ใดกระทำการอันควรขายหน้าต่อหน้าธารกำนัล โดยเปลือยหรือเปิดเผยร่างกาย หรือกระทำการลามกอย่างอื่น มาตรา 388” นอกจากนี้ มีความผิด “พ.ร.ก.ฉุกเฉินฯ, พ.ร.บ.โรคติดต่อ” เช่นเดียวกับผู้ชุมนุมคนอื่น
แนวโน้มหลังจากนี้เป็นไปได้ว่าจะเกิดเหตุทั้งที่แยกนางเลิ้ง และแยกสามเหลี่ยมดินแดง ส่วนการชุมนุมจะสิ้นสุดภายในพรุ่งนี้ (30 ก.ย.) ตามที่เคยกล่าวไว้หรือไม่ ขณะนี้ผู้ชุมนุมมีจำนวนไม่มาก อีกไม่กี่วันตำรวจจะใช้มาตรการที่เข้มข้นทางกฎหมายมากขึ้น โดยประสานงานกับหน่วยงานอื่นของกระบวนการยุติธรรม อาทิ อัยการ ศาล และทนายความช่วยแก้ไขปัญหาบ้านเมือง เนื่องจากตำรวจหน่วยเดียวไม่สามารถรักษาความสงบในภาพรวมของประเทศได้ แต่ยังไม่จำเป็นต้องร้องขอกำลังทหารเข้ามาสนับสนุน
“ตำรวจปรับยุทธวิธีรักษาความสงบเป็นประจำอยู่แล้ว เมื่อวานนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร.ได้เป็นประธานฝึกซ้อมภารกิจควบคุมฝูงชน รวมถึงให้คำแนะนำทั้ง พล.ต.ท.ภัคพงศ์ พงษ์เภตรา ผบช.น.คนปัจจุบันและ พล.ต.ต.สําราญ นวลมา รอง ผบช.น.ว่าที่ ผบช.น.เพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพมากขึ้น” รองฯต๊ะ กล่าว
พล.ต.ต.ปิยะ กล่าวด้วยว่า การก่อเหตุจะถึงขั้นจลาจลได้หรือไม่ ภาพรวมในตอนนี้อยู่ในระดับที่สามารถควบคุมได้ จากการปฏิบัติทางกฎหมายที่เข้มข้นขึ้นทำให้จำนวนผู้ชุมนุมลดลง จึงเป็นโอกาสในการสร้างเงื่อนไขด้วยการทำให้เหตุการณ์รุนแรงมากขึ้น อาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชน โดยเฉพาะเรื่องความเป็นอยู่ของประชาชน อยากให้มองว่าผู้ก่อเหตุไม่ใช่ผู้ชุมนุม เพราะละเมิดกฎหมายในหลายบทบัญญัติ ตนมั่นใจว่าหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมอื่นๆ คงจะมอง และมีมาตรการเช่นเดียวกับตำรวจ