เฟซบุ๊ก “Suthep Thaugsuban (สุเทพ เทือกสุบรรณ)” ของ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ ประธานมูลนิธิมวลมหาประชาชนเพื่อการปฏิรูปประเทศไทย (มปท.) ได้เผยแพร่รายการ “คุยกับลุง” EP 20
โดย นายสุเทพ กล่าวว่า ช่วงนี้รัฐสภาปิดสมัยประชุมแล้ว แต่คณะกรรมาธิการฯ ก็จะต้องทำงานอยู่ พิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยพรรคการเมือง และพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญ (พ.ร.ป.) ว่าด้วยการเลือกตั้ง ที่จะทำให้เสร็จภายในเดือน พ.ค.เสร็จทันหรือไม่ ก็จะมีผลต่อสถานการณ์ในทางการเมืองในเดือน พ.ค.มากที่เดียว ระหว่างนี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ก็จะมีเวลามากขึ้น ไม่ต้องกังวลกับเวลาที่จะต้องไปอยู่ใช้ในสภาฯ ก็จะมีได้มีสมาธิมีกำลังที่จะทำงานแก้ปัญหาที่กำลังรุมเร้า
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ปัญหาที่กำลังรุมเร้าประเทศไทยในเวลานี้ มีเรื่องใหญ่ 2 เรื่อง เรื่องแรกคือเรื่องโควิด เรื่องที่ 2 คือเรื่องเศรษฐกิจ เรื่องโควิดนั้น เชื่อมั่นว่ารัฐบาลไทย มีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาติดต่อกันมา 2 – 3 ปีแล้ว ประชาชนคนก็ร่วมมือกันดี ถ้าไปดูตัวเลขเปรียบเทียบประเทศไทย มีประชากร 66 ล้านคนเศษ วันนี้มีตัวเลขคนติดโควิดประมาณ 2 หมื่นกว่าคนต่อวัน ถ้าไปเปรียบเทียบกับฮ่องกง ที่มีประชาชรประมาณ 7 ล้านกว่าคน แต่มีคนติดโควิดเพิ่มขึ้นวันละ 3 หมื่นกว่าคน ก็ถือว่าสถานการณ์ของประเทศไทยไม่น่าจะหนักหนาสาหัส
“ปัญหาใหญ่คือเรื่องเศรษฐกิจ การลงทุนของประเทศ การท่องเที่ยว ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจเห็นนายกฯประกาศเป็นนโยบายว่าจะให้วีซ่าระยะยาว สำหรับนักลงทุนที่จะเข้ามาลงทุนในประเทศไทยในระยะนี้ ตนยังคิดเลยไปว่ายังมีคนที่มีเงิน มีทอง ถ้ารัฐบาลให้สิ่งจูงใจ บอกว่าใครที่เอาเงินมาลงทุน ในเศรษฐกิจ BCG เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน เศรษฐกิจสีเขียว โดยเฉพาะทางด้านเกษตร การผลิตอาหารปลอดภัย รัฐบาลให้สัญชาติไทยเลย อย่างนี้น่าจะเป็นแรงจูงใจ ให้คนเอาเงินออกมาลงทุนสร้างงานมากขึ้น ก็จะเป็นผลดีต่อผู้ใช้แรงงานในประเทศไทยต่อไปในวันข้างหน้า”
นายสุเทพ กล่าวอีกว่า เรื่องดีมีคุณค่าสำหรับประเทศไทยตนยังน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพล ที่ได้ทรงพระราชทานแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงไว้เป็นมรดกให้กับคนไทย เชื่อว่าจะช่วยเรื่องเศรษฐกิจของครอบครัวและประเทศชาติได้เป็นอย่างดี ได้ติดตามข่าวที่ พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ประชุมข้าราชการที่เป็นผู้ราชการจังหวัดต่างๆให้รีบเร่งรัดดำเนินการโครงการเศรษฐกิจพอเพียงในแต่ละจังหวัด ต้องปรบมือให้ เพราะเป็นเรื่องทีดีมาถูกทางแล้ว ถ้าทุกฝ่ายช่วยกัน ผลักดันจริงจัง คิดว่าครอบครัวของคนไทยจะแก้ปัญหาเศรษฐกิจได้อย่างทันเหตุการณ์
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ส่วนเรื่องการเกิดสงครามในยุโรป ระหว่างรัสเซียกับยูเครน เมื่อเกิดสงครามในยุโรป ก็ต้องกระทบต่อเศรษฐกิจของยุโรป และแน่นอน ต้องมีผลกระทบต่อเศรษฐกิจไทย ไม่รู้ว่าจะมากจะน้อยแค่ไหนแต่ก็เป็นเรื่องที่รัฐบาลจะต้องคิดจะต้องหาทางแก้ไข ต้องขอชื่นชม นายดอน ปรมัตถ์วินัย รองนายกฯ และรมว.ต่างประเทศ ที่ได้แสดงจุดยืนของประเทศไทยอย่างสง่างาม ไม่เอียงเข้าข้างใดข้างหนึ่ง เป็นกลาง ดีกับทุกประเทศ นายกฯ ก็แสดงออกอย่างพอดี งดงามตามวิถีทาง ทางการทูตที่เรายึดถือเป็นมรดกกันมาตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 4 รัชกาลที่ 5 ที่ ทำให้เรารักษาเอกราชของประเทศไว้ได้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็แสดงออกมาว่าเราเป็นประเทศเล็กต้องสำรวม เราอยากให้มีสันติภาพที่จะเป็นประโยชน์ต่อชาวโลกและชาวไทย และนี่เป็นการแสดงจุดยืนและท่าทีในเวทีการเมืองระหว่างประเทศได้อย่างสวยงาม และเป็นเอกลักษณ์ของประเทศไทย
นายสุเทพ กล่าวต่อว่า ปัญหาใหญ่ของ พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะนี้คือ เรื่องการเมือง การเมืองภายในพรรครัฐบาลเอง การเมืองระหว่างพรรค การเมืองจากนอกพรรค ทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่น่าหนักใจ เดือน พ.ค.นี้ จะอภิปรายไม้ไว้วางใจ พล.อ.ประยุทธ์ เอากันอย่างจริงจัง จะล้มรัฐบาลให้ได้ คนก็จิตใจตุ๊มๆ ต่อมๆ ไม่รู้ว่ารัฐบาลจะไปรอดหรือไม่รอด จากการอภิปรายไม่ไว้วางใจ การลงมติไม่ไว้วางใจ จริงๆ แล้ว ไม่ห่วงว่า พล.อ.ประยุทธ์ จะมีจุดอ่อนอะไรให้โจมตีมากมาย แต่ที่เป็นห่วงคือ เรื่องจำนวน ส.ส.ใครบ้างที่ยังคงยืนหยัดที่จะสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ อย่าง ร.อ.ธรรมนัส ก็ออกมาประกาศว่า 18 คน ที่ออกจากพรรคพลังประชารัฐไปนั้น จะไม่ยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จะยกมือสวน กล่าวได้ว่านี่เป็น ส.ส.อีกกลุ่มที่อยู่ฝ่ายที่จะจ้องล้มรัฐบาล จำนวนมือของ ส.ส.ที่จะยกมือสนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ ในวันที่มีการลงคะแนนเสียงไว้วางใจ หรือไม่ไว้วางใจ ตอนนี้ยังสับสนอยู่ บางฝ่ายคำนวณว่า จะมี ส.ส.สนับสนุนรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ ประมาณ 260 คน ร.อ.ธรรมนัส ก็บอกว่า จริงรึเปล่า อันนี้ก็ไม่รู้ อยู่ที่ทีมงานของ พล..อ.ประยุทธ์ ก็ต้องใช้วิชาเลขคณิต นับจำนวนความเคลื่อนไหวเปลี่ยนแปลงของ ส.ส.รายวันเลยทีเดียว
“ผมเห็นใจ พล.อ.ประยุทธ์ สถานการณ์ที่รุมเร้าอย่างนี้ ใครเป็น พล.อ.ประยุทธ์ ก็น่ากลุ้มใจ แต่ว่าต้องสู้ เป็นเรื่องที่ต้องพาประเทศไปให้ได้ การเปลี่ยนแปลงรัฐบาลในช่วงนี้ไม่เป็นผลดีต่อประเทศไทย อย่างคติโบราณที่บอกว่า ไม่ควรเปลี่ยนม้ากลางศึก ก็เพราะเรามีศึกเยอะแยะที่ต้องฟันฝ่า ผมก็เอาใจช่วย เหมือนพี่น้องประชาชนคนไทยที่ต้องเอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์ ในช่วงปิดสมัยประชุมนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ก็ต้องทุ่มเท เอามาตรการต่างๆ โครงการต่างๆ ออกมาช่วยประชาชน ประเทศชาติ ให้เห็นประจักษ์ เพราะฉะนั้น พอถึงจังหวะที่มีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ตามที่เขาประกาศ พล.อ.ประยุทธ์ ก็อาจจะพลิกโอกาส ใช้โอกาสนี้ อธิบายว่า รัฐบาลได้ทำสิ่งดีๆ ให้กับประเทศและประชาชนไว้อย่างไรบ้าง ผมเชื่อว่า หาก พล.อ.ประยุทธ์ ใช้โอกาสอย่างนี้ ประชาชนจะเข้าใจและเอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์ เหมือนที่ผมเอาใจช่วย พล.อ.ประยุทธ์ ในขณะนี้ สู้ๆ นะครับท่านนายกฯ หนักหน่อย แต่ก็ต้องสู้ และต้องสู้ให้ชนะนะครับท่านนายกฯ เอาใจช่วยครับ”