Skip to content
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา

ข่าวฟ้ายามเย็น

‘รัฐสภา’ ถกเดือด! ลงมติ 476 ต่อ 25 เสียง ถอนร่างกฎหมายเลือกตั้งส.ส.

26 กรกฎาคม 2565

วันนี้ (26 กรกฎาคม 2565) ที่รัฐสภา ในการประชุมร่วมกันของรัฐสภา ครั้งที่ 9 ที่มีนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ทำหน้าที่เป็นประธานการประชุม เพื่อพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส. (ฉบับที่) พ.ศ…. ที่คณะกรรมาธิการ(กมธ.)วิสามัญฯ พิจารณาเสร็จแล้ว ในวาระที่ 2  ต่อจากการประชุมครั้งที่ผ่านมา

โดยเมื่อเวลา 11.00 น. การประชุมร่วมกันของรัฐสภาได้กลับมาเปิดประชุมอีกครั้ง หลัง กมธ.ฯขอพักการประชุมกลับไปทบทวนบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับมาตรา 23 นานกว่า 1 ชั่วโมง โดยนายมหรรณพ เดชวิทักษ์ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะรองประธานกมธ.ฯ ชี้แจงว่า จากการประชุม กมธ.อย่างเคร่งเครียด โดยกมธ.มีความเห็นร่วมกันว่าจะขอยืนตามร่างรายงานเดิมที่ได้เสนอรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าว ส่วนมาตรา 23 ที่มีการแก้ไขผิดไปจากร่างเดิม โดยให้เป็นหน้าที่ของกมธ.เสียงข้างน้อยที่ได้ปรับแก้ไขในมาตรานั้นเป็นผู้นำเสนอ เพื่อให้ที่ประชุมพิจารณาร่วมกันเห็นสมควรหรือไม่ที่จะปรับปรุงมาตราดังกล่าวเพียง 1-2 มาตรา โดยมีการเพิ่มมาตราขึ้นมาใหม่คือมาตรา 24 /1

จากนั้น นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ  และหัวหน้าพรรคพลังธรรมใหม่ ในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย อภิปรายว่า ตนขอปรับเพิ่มมาตรา 24/1 โดยมีเนื้อหาคือ ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 129/1 แห่งพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 เพื่อประโยชน์ในการคำนวณตามมาตรา 128 และการประกาศผลการเลือกตั้งของมาตรา 129 ถ้าคณะกรรมการได้รับรายงานผลรวมคะแนนบัญชีรายชื่อตามมาตรา 123(3) ถึงร้อยละ 95 ของเขตเลือกตั้งทั้งหมด ให้เริ่มดำเนินการคำนวณตามมาตรา 128 เพื่อหาจำนวนส.ส.บัญชีรายชื่อที่พรรคการเมืองได้รับจัดสรรเบื้องต้น เมื่อคณะกรรมการได้รับรายงานผลรวมคะแนนบัญชีรายชื่อตามมาตรา 123(3) เพิ่มขึ้นจากที่ได้รับมาแล้วตามวรรค 1 ให้ดำเนินการไปตามมาตรา 128 ใหม่เพื่อหาจำนวนส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ

ทำให้นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ ส.ส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย  ลุกขึ้นประท้วงว่า กระบวนการที่กำลังเกิดขึ้นไม่ชอบด้วยนิติวิธี ซึ่งกำลังมีกมธ.เสียงข้างน้อยนำเสนอเพื่อให้รัฐสภาพิจารณา ทั้งนี้กระบวนการแปรญัตติตกไปนานแล้ว อยู่ดีๆ จะมีความเห็นใหม่แทรกขึ้นมาโดยเป็นเสียงข้างน้อยนั้นไม่สามารถทำได้ หากจะทำต้องไปประชุมกันแล้วมาเป็นเสียงข้างมากและลงมติกันมา พวกตนยังจะรับได้มากกว่า แต่กมธ.ฯกลับใช้คำว่าให้เสียงข้างน้อยเสนอขึ้นมา 1 ข้อเพื่อให้รัฐสภามีมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบ ตนคิดว่าไม่ชอบด้วยนิติวิธี กระบวนเช่นนี้เราจะเดินต่ออย่างไร ตนมีความจำเป็นต้องสอบถามว่าอนุญาตให้ทำได้ด้วยข้อบังคับการประชุมใด เพราะไม่มีกระบวนการนี้อยู่ในสารบบวิธีการกระทำกฎหมายที่เราเคยได้ทำมา

ด้านนายชวน วินิจฉัยว่า นายมหรรณพได้แจ้งว่าผลการหารือเป็นอย่างไร และอนุญาตให้กมธ.เสียงข้างน้อยเสนอแก้ไข แต่ทั้งหมดอยู่ที่มติของที่ประชุม ตนจะต้องถามหลังจากเสร็จแล้วและให้แสดงความเห็น และขอมติว่าจะอนุญาตให้มีการแก้ไขมาตรา 24/1 หรือไม่ ทั้งนี้โดยทั่วไปก็ไม่ค่อยมีเช่นนี้ แต่โดยหลักแล้ววิธีการมีสิทธิที่จะปรับปรุงแก้ไขได้ ดังนั้นก็อนุญาตให้เขาทำได้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็คือมติที่ประชุม

นายจุลพันธ์ จึงถามต่อว่า ทำไมไม่ทำแบบที่เคยปฏิบัติคือ กมธ.ฯไปประชุมกันแล้วลงมติเห็นชอบกันมา พวกตนยังจะเดินต่อให้กับท่าน แต่เป็นเช่นนี้หมายความว่ากมธ.ไปคุยกันมาแล้วก็ยังคุยไม่จบ จึงส่งกลับมาเป็นภาระของพวกเรา ที่จะต้องกลับมาดำเนินการตามกระบวนการนิติวิธีที่ไม่ชอบใช่หรือไม่

ทั้งนี้นายชวน ชี้แจงว่า เราก็ต้องแก้ภาระต่อไป เป็นหน้าที่เรา ทำให้นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กมธ.จากพรรคประชาชาติ ประท้วงว่า ตนเห็นว่าวิธีการดำเนินการไม่เป็นไปตามข้อบังคับของการประชุมรัฐสภา เพราะในมาตรา 24 ซึ่งผ่านไปแล้วไม่มีการแก้ไขและไม่มีผู้สงวนขอแปรญัตติ แต่ที่จะมีการเสนอขณะนี้กมธ.ไม่ได้ไปขอจากรัฐสภาว่าขอเอาไปประชุมเพื่อเอาไปแก้ไข ที่กมธ.ขอประธานคือขอพักการประชุม เมื่อพักการประชุมแล้วจะไปทำอะไรนอกกติกาการประชุมรัฐสภา และรายงานการประชุมเดิมก็คงจะกระทำไม่ได้ หากจะทำก็จะต้องขออนุมัติต่อสภาว่าขอให้กมธ.นำไปพิจารณา ทบทวน แต่สภาอนุมัติให้พักการประชุมไม่ได้บอกว่าจะมีการแก้ไข ก็ไม่สามารถที่จะแก้ไขใหม่ได้

นายมหรรณพ ชี้แจงอีกว่า จากการประชุมกมธฯ มีมติเป็น 2 มติ โดยตนถามว่า 1.กมธ.ฯยังคงยืนตามรายงานที่ได้นำเสนอต่อรัฐสภาไปแล้วและอนุญาตให้กมธ.เสียงข้างน้อย ผู้นำเสนอแก้ไขมาตรา 23  เป็นผู้นำเสนอในที่ประชุมรัฐสภาในมาตราที่เห็นว่ามีความขัดหรือแย้งกับมาตรา 23 ที่แก้ไขแล้ว และ2.ให้ขอถอนญัตตินี้ไปก่อนเพื่อนำไปพิจารณาทบทวน แล้วกลับมาสภาฯภายใน 1 สัปดาห์  ปรากฏว่าที่ประชุมลงมติด้วยคะแนนเสียง 16 ต่อ 5 เห็นด้วยกับมติที่1 โดยยอมให้กมธ.เสียงข้างน้อย เป็นผู้นำเสนอมาตราที่ต้องแก้ไข  เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรา 23  ที่แก้ไขไปแล้ว โดยให้ที่ประชุมรัฐสภา มีมติเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วยร่วมกัน

นายชวน วินิจฉัยว่า เมื่อเป็นมติขอที่ประชุมกมธ.ฯให้ทำอย่างนี้ ตนจึงต้องยึดตามที่รองประธานกมธฯ.รายงาน นี่คือเหตุผลที่ตนต้องยึดข้อตกลงของกมธ.ฯ

ด้านนายณัฐวุฒิ บัวประทุม ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะกมธฯ ประท้วงว่า สิ่งที่นายมหรรณพูดนั้นพูดไม่ผิด แต่สิ่งที่ประธานรัฐสภาวินิจฉัย ทางที่ประชุม กมธ.ฯ ยืนยันตามรายงานเดิม คือไม่ได้มีการแก้ไข ส่วนติ่งท้ายที่บอกว่า ให้กมธ.เสียงข้างน้อยนำเสนอ ถึงแม้จะเป็นมติ แต่แค่ 16 ต่อ 5 เสียงถือว่าน้อยมากเมื่อเทียบกับกมธ.ฯทั้งหมด เพราะมีงดออกเสียงและไม่ลงคะแนน มีคะแนนใกล้เคียงกัน  ซึ่งไม่ใช่การแก้ไขรายงาน เป็นแค่การบอกว่าถ้าไปทำอะไรในสภาฯ ก็ให้กมธ.เสียงข้างน้อยไปเสนอ ก็ต้องดูว่าใช้อำนาจตามข้อบังคับข้อใด ที่จะเสนอในฐานะกมธ.เสียงข้างน้อย ซึ่งไม่ได้แปรญัตติไว้

นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขาฯกมธ.ฯ ชี้แจงว่า ระหว่างที่ไม่ได้มีการประชุม กมธ.เสียงข้างน้อยเห็นปัญหาว่ามีกระทบกับมาตราอื่นๆที่ยังไม่ได้พิจารณา จึงพยายามเสนอให้กมธ.ฯเรียกประชุมเพื่อหารือ ซึ่งเสียงส่วนมากในกมธ.ฯมีความเห็นว่าทำไม่ได้ เพราะไม่มีอำนาจ เรากระทำการโดยการทำรายงานเสร็จแล้วก็หมดหน้าที่ จะต้องให้ที่ประชุมรัฐสภาสั่งให้ทำถึงจะทำได้ จึงเป็นที่มาที่รองประธานกมธ.ฯ ขอพักการประชุม ซึ่งไม่มีเสียงคัดค้าน แต่ปรากฎว่าในที่ประชุมกมธ.ฯ หลายส่วนเห็นว่าการแก้สูตรคำนวณบัญชีรายชื่อเป็น 500 หาร  ขัดรัฐธรรมนูญ ฉะนั้นการไปแก้มาตรการอื่นข้างหลังกระทำมิได้ จึงมีความเห็นแย้งจึงเป็นมติที่ประชุมกมธ.ให้กมธ.เสียงข้างน้อยเป็นผู้เสนอ เพราะหากจะเอากลับไปพิจารณากันใหม่ เวลาของสภาฯเกี่ยวกับเรื่องนี้เหลือถึงวันที่ 15 ส.ค.ต้องเสร็จ ก็เกรงว่าจะมีปัญหาจึงให้เดินหน้าเสนอความเห็นมาเลย โดยใช้มติที่ประชุมให้ดำเนินการไป

ขณะที่นายสมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะรองประธานกมธ.ฯ อภิปรายว่า เสียงข้างน้อยได้เปลี่ยนเป็นเสียงข้างมากไปแล้ว ด้วยมติที่ประชุมรัฐสภา เห็นด้วยกับหาร 500 ดังนั้นนพ.ระวี สามารถดำเนินการได้ ว่าเกี่ยวข้องอย่างไร ถ้ารัฐสภาเห็นชอบก็เดินหน้าต่อไปได้ เช่นเดียวกันพ.ร.บ.ประชามติ และพ.ร.บ.ตำรวจแห่งชาติ ที่เสียงข้างน้อยกลายเป็นเสียงข้ามาก

นายชูศักดิ์ ศิรินิล กมธ.สัดส่วนพรรคเพื่อไทย อภิปรายว่า เป็นห่วงกระบวนการพิจารณาในขณะนี้ โดยเฉพาะการที่ นพ.ระวี เสนอเพิ่มมาตราใหม่ ซึ่งถือเป็นการเพิ่มข้อความใหม่ทั้งหมด แต่ต้องยอมรับว่ากมธ.ฯอีกหลายคนยังไม่ได้ดูรายละเอียดแม้แต่น้อย อย่างไรก็ตามมีกมธ.ฯ บางคนชี้ว่า การนำเสนอในลักษณะเช่นนี้เหมือนการแก้ไขกฎมายประชามติ และกฎหมายตำรวจนั้น บังเอิญว่าตนเป็นกมธ.ฯอยู่ในกฎหมายประชามติ อยากจะบอกว่า ในครั้งนั้น ไม่มีประเด็นว่าจะขัดกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ เหมือนกับร่างกฎหมายลูกฉบับนี้ ดังนั้นจึงเป็นคนละเรื่องกัน และตนเห็นว่าทางออกที่ดีที่สุดคือการเลื่อนการประชุมออกไปเสียก่อน เพื่อให้กมธ.ฯกลับไปทบทวนแก้ไขรายงาน

เช่นเดียวกับนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา กมธ.ฯจากพรรคประชาชาติ อภิปรายว่า ขอเวลาให้กมธ.ฯและสมาชิกได้อ่านสิ่งที่กมธ.ฯเสียงข้างน้อยเสนอมาให้ละเอียดรอบคอบ ขออย่าเพิ่งแก้ไข ไม่เช่นนั้นจะเท่ากับว่า เป็นการแก้ไขแบบไม่เห็นหัวใคร แต่นายมหรรรพ ยืนยันที่จะเดินหน้าต่อเพราะ จากการหารือของกมธ.ในช่วงเช้า มีมติ 16 ต่อ 5 เสียง ให้เสียงข้างน้อยเสนอร่างมาตราใหม่ที่เกี่ยวข้อง ส่วนจะโต้แย้งว่าขัดหรือไม่ขัดกับรัฐธรรมนูญนั้น วันนี้พวกเราก็คงเถียงกันไม่จบ สุดท้ายเรื่องนี้อย่างไรก็ต้องจบที่ศาลรัฐธรรมนูญแน่นอน

จากนั้นนายสาธิต ปิตุเตชะ รมช.สาธารณสุข ในฐานะประธานกมธ.ฯ กล่าวว่า เพื่อหาทางออกในเรื่องนี้ จึงขอเสนอญัตติถอนร่างกฎหมายฉบับนี้ออกไปก่อน แล้วนำกลับมาพิจารณาต่อในโอกาสต่อไป เพราะต้องไปพิจารณาทั้งข้องบังคับและเนื้อหา โดยพิจาณาต่อจากมาตราที่พิจารณาค้างอยู่

ต่อมาเวลา 12.20 น. นายชวนสั่งลงมติ โดยที่ประชุมมีมติให้ถอนร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญดังกล่าวออกไป ด้วยคะแนน 476 ต่อ 25 งดออกเสียง 20 ไม่ออกเสียง 9  เป็นอันว่าถอนร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้งส.ส.ออกไปก่อน โดยนายสาธิต นัดประชุมกมธ.ฯช่วงค่ำวันนี้ (26 ก.ค.) และหากได้ข้อสรุปก็อาจจะเสนอกลับเข้ามาที่ประชุมรัฐสภาในวันที่ 27 ก.ค.

จากนั้นเวลา 12.38 น. ที่ประชุมเข้าสู่การพิจารณาร่างพ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยพรรคการเมืองต่อ

แชร์กับเพื่อน

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

17 สิงหาคม 2565

หูผึ่ง! ‘โหรวันชัย’ บอกใบ้ได้กลิ่นโชยยุบสภาฯ 22 ส.ค.นี้ ‘ไม่ใช่เรื่องเลื่อนลอย’

อ่านต่อ
17 สิงหาคม 2565

สยบข่าวลือ!! ‘บิ๊กตู่’ย้ำไม่มี ‘ยุบสภา’ ขอใช้เวลาที่เหลืออยู่ทำงานให้กับ ปชช.

อ่านต่อ
17 สิงหาคม 2565

‘เดียร์’ เปิดใจไขก๊อกพ้น ส.ส.-โบกมือลา พปชร. ลังเลซบ ‘ปชป.-สร้างอนาคตไทย’

อ่านต่อ
17 สิงหาคม 2565

จับสัญญาณ พปชร.แพแตก กทม.รอชิ่ง !?

อ่านต่อ
17 สิงหาคม 2565

สงครามเงา “พีระพันธุ์” ชักธงสู้ หนุนตู่ไม่ชูป้อม

อ่านต่อ
16 สิงหาคม 2565

‘5 บิ๊กบะหมี่’ อั้นไม่ไหว นัดตบเท้าบุกค้าภายในทวงคำตอบขอขึ้นราคาเป็น 8 บาท/ซอง

อ่านต่อ
Facebook Youtube Line
บริษัทบลูสกายแชนแนล
  • 2170 อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ชั้น 8
    แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
    กรุงเทพมหานคร 10310
  • 02-308-0020
line-logo-100
Copyright © 2021