วันนี้ ที่ริมฝั่งแม่น้ำแคว ตำบลปากแพรก อำเภอเมืองกาญจนบุรีจังหวัดกาญจนบุรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรมว.กลาโหม ตรวจติดตามความคืบหน้าการจัดระเบียบเรือนแพและปรับปรุงภูมิทัศน์ บริเวณ 2 ริมฝั่งแม่น้ำแคว
โดยนายกฯ กล่าวว่า ตนดีใจและซาบซึ้งใจที่มาเห็นความสำเร็จที่เราร่วมมือกันมาตั้งแต่ปี 2563 ตนมาที่จังหวัดกาญจนบุรีหลายครั้งตั้งแต่เป็น ผบ.ทบ.เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงมากมาย ยินดีกับทุกท่านด้วยใจจริงวันนี้เห็นประชาชนมารับเยอะก็ตื้นตันพูดอะไรไม่ออก นี่คือประเทศไทย คือคนไทยที่เราต้องพร้อมกันร่วมมือด้วยความสมัครสมานสามัคคี ทำให้บ้านเมืองเรามีเสถียรภาพและเดินหน้าไปได้ วันนี้มีความสุขตั้งแต่เช้าแล้ว เห็นบ้านเมืองเป็นระเบียบ ตั้งแต่ไปสักการะสมเด็จพระนเรศวรฯ แล้ว ตลอดทางก็ไหว้มาตลอดเพราะดินแดนนี้เป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์หลายอย่าง และดินแดนศักดิ์สิทธิ์วันนี้ก็คุยกับส.ส.และผู้ว่าราชการจังหวัด มีหลายอย่างที่ตนรับเรื่องไว้พิจารณา อะไรทำได้ตนยืนยันจะทำให้ ขอให้ห่วงใยซึ่งกันและกัน ตนห่วงใยประชาชน ประชาชนก็ห่วงใยตนด้วย เพราะตนทำอะไรที่ผิดมากๆไม่ได้ต้องรักษากติกา
นายกฯ ยังถามส.ส.ในพื้นที่ว่ามีอะไรอีกที่ขอมาในวันนี้ ก่อนกล่าวอีกว่า ในเรื่องไฟฟ้าที่มีปัญหาปักเสาไฟผิดกฎหมายกันอยู่ตนจะพิจารณาดูให้ ก็ไปดูเจ้าของพื้นที่ว่าถ้าเขาไม่อนุญาตจะทำได้อย่างไร แต่ตนก็รับเรื่องไว้ทั้งหมด นี่คือสิ่งที่ไม่เคยหยุดคิดตลอดเวลาหลายปีที่ผ่านมา และวางแผนไว้ล่วงหน้าวางยุทธศาสตร์ไว้ ทั้งหมดที่ทำไว้เกือบ 8 ปี ก็เป็นรูปเป็นร่างขึ้นมา แล้วถ้าทำต่อก็ไปได้เรื่อยๆ อยากจะบอกว่าจิตใจนายกฯ และข้าราชการเป็นจิตใจเดียวกัน ต่างคนต่างเข้าใจกันก็ไม่มีปัญหา จะได้เดินหน้าต่อไปได้ ความสำเร็จวันนี้ไม่ใช่ตนคนเดียว พวกเราเป็นตัวหลักสำคัญประชาชนในพื้นที่ยินยอมพร้อมใจให้ทำ ถ้าตนกำหนดความคิดเห็นมาแล้วไม่ผ่านความเห็นชอบก็ไปไม่ได้ และวันนี้แลนด์มาร์กที่มี 2 แห่ง วันหน้าอาจมี
5-10 แห่งก็ได้ สิ่งสำคัญคือความเชื่อมโยงไม่ใช่ทำท่องเที่ยวอย่างเดียว ต้องเชื่อมโยงกับภาคธุรกิจร้านค้า บริการ ถ้าบูรณาการอย่างนี้ได้ก็จะมีเป้าหมายร่วมกัน พัฒนาจุดที่จังหวัดมีอยู่ สร้างอัตลักษณ์ให้มีมูลค่าเพิ่มขึ้นเพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า และตนขอยืนยันว่าสถานะการเงินการคลังของเรายังแข็งแกร่ง และมีขีดความสามารถในการดูแลปัญหาหนี้ต่างๆ ตามแผน ตามระบบการเงินการคลังของประเทศ ซึ่งดีกว่าหลายประเทศในโลก และมั่นใจว่าโอกาสยังมีอีกเยอะหากพวกเราเดินหน้าไปด้วยกัน ก้าวไปด้วยกัน ตนว่าเราเอาชนะได้ทั้งโลกทุกเรื่อง ตนขอแค่นั้น สุดท้ายนี้ฝากทุกภาคส่วน ทั้งส.ส.ในพื้นที่ภาครัฐ ส่วนท้องถิ่นต่างๆร่วมมือกันทำงานให้ประชาชน เวลาไม่คอยท่าใคร ทุกวันเวลา นาทีมีค่าทั้งหมดในการทำงาน ขอให้ตั้งใจทุ่มเททำงาน เพื่อร่วมพัฒนาจังหวัดกาญจนบุรีและประเทศชาติให้เดินไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้เรามีโอกาสแล้วอย่าทำลายโอกาสของพวกเรากันเองด้วยเรื่องที่ไม่เป็นเรื่อง
จากนั้นนายกฯ เดินพบปะถ่ายรูปกับประชาชน พร้อมกล่าวสั้นๆ ว่า ตนไม่มีอะไรกับใคร ตนไม่เป็นศัตรูกับใครทั้งสิ้น แต่ใครทำร้ายแผ่นดินนี้ไม่ได้ ขอให้ช่วยกันดูแลประเทศชาติ ทั้งนี้ยังมีประชาชนมอบสร้อยคอลูกประคำ พร้อมเหรียญเสาร์ 5 หลวงพ่ออุตตมะ วังวังก์วิเวการาม จ.กาญจนบุรี ให้นายกฯคล้องคอ จากนั้นนายกฯและคณะได้เดินชม Sky Walk พร้อมกับถ่ายรูปเป็นที่ระลึก โดยผู้สื่อข่าวรายงานว่าบรรยากาศบริเวณจุดสกายวอล์ค ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมาถึง มีการตรึงกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทหารทั้งในและนอกเครื่องแบบ ทั้งทางบกและทางน้ำ มีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ทหารพร้อมอาวุธครบมือ กระจายยังจุดต่างๆตามอาคาร รวมไปถึงมีการคัดกรองคนเข้าออก ตรวจอาวุธ และมีการปิดเส้นทางเข้าออกโดยรอบอีกด้วย มีการวิทยุให้เจ้าหน้าที่ตรวจค้นรถจักรยานยนต์โดยละเอียด และห้ามเข้าพื้นที่โดยเด็ดขาด พร้อมกับตั้งสะกัดกลุ่มผู้ชุมนุมตั้งแต่แยกท่าม่วง