การเมืองเป็นเหตุ! กรมสุขภาพจิต ยุติการมอบหมายให้ อแมนด้า ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 เป็นทูตด้านสุขภาพจิตแล้ว
กลายเป็นประเด็นดราม่าเมื่อนางงามสาว อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ถูกวิจารณ์อย่างหนักหลังออกมาโพสต์เรื่องการเมืองอย่างต่อเนื่อง
ก่อนหน้านี้ ดร.เสรี วงษ์มณฑา ผู้ร่วมก่อตั้งสถาบันทิศทางไทย นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊กถึงอแมนด้า ออบดัม แย้งทุกประเด็นเป็นข้อๆ พร้อมบอกการที่คุณพูดถึงอำนาจหลังม่าน คุณกำลังกล่าวหาใครอย่างไร้หลักฐาน
ล่าสุด 2 มี.ค. พญ.พรรณพิมล วิปุลากร อธิบดีกรมสุขภาพจิต กล่าวถึงกรณีกรมสุขภาพจิตยุติการมอบหมาย น.ส.อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม มิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 เป็นทูตด้านสุขภาพจิต ตามที่กรมสุขภาพจิตและกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ได้เคยมีการตกลงความร่วมมือด้านการประชาสัมพันธ์และส่งเสริมภาพลักษณ์งานด้านสุขภาพจิตของกระทรวงสาธารณสุขนั้น
ทางกรมสุขภาพจิตได้รับทราบถึงข้อกังวลของประชาชนต่อการมอบหมายภารกิจด้านสุขภาพจิตแก่ น.ส.อแมนด้า ชาลิสา ออบดัม เจ้าของตำแหน่งมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์ 2020 ในช่วงที่ผ่านมา ซึ่งการมอบหมายภารกิจทูตด้านสุขภาพจิตที่ได้นั้นไม่ได้เป็นการมอบหมายอภิสิทธิพิเศษแต่อย่างใด เป็นเพียงหน้าที่และภารกิจการช่วยเหลืองานด้านสุขภาพจิตเท่านั้น ซึ่งมีหน้าที่ได้แก่ 1.ส่งเสริมภาพลักษณ์การทำงานด้านสุขภาพจิต 2.ประชาสัมพันธ์ และเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเพื่อช่วยให้คนไทยมีสุขภาพจิตที่ดี 3.ปฏิบัติงานจิตอาสากรมสุขภาพจิต และ 4.ขยายเครือข่ายจิตอาสาเพื่อสร้างกระแสการเป็นผู้รับฟังที่ดี เช่นเดียวกับความร่วมมือของกรมสุขภาพจิตกับกองประกวดมิสไทยแลนด์เวิล์ดในช่วงปี 2563 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการมอบหมายภารกิจทูตด้านสุขภาพจิตเช่นเดียวกัน
กรมสุขภาพจิตมีเป้าหมายในการสร้างความสุขให้แก่ประชาชนและรับฟังความคิดเห็นของประชาชนมาโดยตลอด แต่อย่างไรก็ดี กรมสุขภาพจิตรับทราบถึงความกังวลใจของประชาชนในขณะนี้ และกรมสุขภาพจิตไม่สามารถดำเนินภารกิจที่อาจจะก่อให้เกิดความขัดแย้งและสร้างความไม่สบายใจแก่ประชาชนในสังคมได้ ทั้งนี้กรมสุขภาพจิตได้มีการปรึกษาหารือกับกองประกวดมิสยูนิเวิร์สไทยแลนด์และรับทราบร่วมกันถึงความกังวลใจของประชาชน ทางกรมสุขภาพจิตจึงขอยุติบทบาทภารกิจทูตด้านสุขภาพจิตดังกล่าวตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ทูตนริศโรจน์’ ค้านตั้งนางงามหนุนม็อบ 3 นิ้วเป็น ‘ทูตด้านสุขภาพจิต’ ใช้เฟกนิวส์ทำสังคมขัดแย้งหนัก
01 มีนาคม พ.ศ. 2564
นายนริศโรจน์ เฟื่องระบิล อดีตเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงบัวโนสไอเรส ประเทศอาร์เจนตินา ได้โพสต์ข้อความลงในเฟซบุ๊กว่า การจะประกาศแต่งตั้งใครให้เป็น “ทูตกิตติมศักดิ์” ในตำแหน่งสาขาด้านใดด้านหนึ่ง บุคคลนั้นจะต้องมีประวัติและพฤติกรรมที่ เคลียร์ สมเป็นตัวแทนประเทศจริงๆ แต่ถ้าไปเอาคนที่ประวัติและพฤติกรรมไม่เคลียร์มาเป็น “ทูตกิตติมศักดิ์” แล้ว ดันมีคนไปขุดคุ้ยเจอเรื่องราวการแสดงออกทั้งวาจาและคำพูดของบุคคลนั้นๆ ซึ่งไม่เหมาะสมกับการเป็น บุคคลสาธารณะ (public figure) เพราะบุคคลนั้นๆขาดการไตร่ตรอง ไม่มองให้รอบด้าน ไม่เป็นกลาง หรือใช้ fake news นำไปเผยแพร่ขยายความเพื่อประจานประเทศตัวเอง ก็ย่อมก่อให้เกิดปัญหาขัดแย้งทางสังคมตามมาอย่างช่วยไม่ได้ !
แบบนี้ไม่เหมาะสมด้วยประการทั้งปวง ทำให้คนที่ทั้งเห็นด้วยและไม่เห็นด้วยทะเลาะกันวุ่นวายจน “เสียสุขภาพจิต” กันไปหมด นี่เป็นข้อพิสูจน์ได้อย่างดีว่าตำแหน่งกิตติมศักดิ์ที่งุบงิบยัดเยียดแต่งตั้งกันเพื่อหวังผลประดับ profile ของบุคคลนั้นๆ fail ไม่สง่างามและไม่เหมาะสมอย่างยิ่ง
.