Skip to content
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา

บ้านเมืองของเรา

ตรรกะพิลึก “สามนิ้ว” ขู่ศาลได้ประกันตัว-ชนะ !?

24 มีนาคม 2564

เผยแพร่: 23 มี.ค. 2564 01:56   ปรับปรุง: 23 มี.ค. 2564 01:56   โดย: ผู้จัดการออนไลน์ // เมืองไทย 360 องศา

ไม่รู้ว่าเป็นเพราะความเชื่อส่วนตัว หรือได้รับการสั่งสอนยุยงมาจากอาจารย์มหาวิทยาลัยเหมือนเป็นศาสดาคนไหน จึงทำให้แกนนำ “ม็อบสามนิ้ว” บางคน ถึงกับ “ห้าวเป้ง” กระทำการ “ท้าทายศาล” ในแบบที่ไม่มีใครเคยทำมาก่อน หรือเป็นเพราะคิดว่า ทำแบบนั้นแล้ว “เท่” กลายเป็น “ไอดอล” ให้เพื่อนๆ ได้เห็นเป็นตัวอย่าง ทำนองว่า “ข้าแน่” แบบเรียกความสนใจตามประสาวัยรุ่นคึกคะนอง ที่ต้อง “สร้างปมเด่น” ขึ้นมาหรือเปล่า

พฤติกรรมของจำเลยในคดีหมิ่นพระบรมเดชานุภาพตามความผิดมาตรา 112 ความผิดตามมาตรา 116 ที่เกี่ยวกับการยุยงปลุกปั่นให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง และอีกหลายคดี ของพวกแกนนำม็อบสามนิ้ว ที่มี นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ หรือ “เพนกวิน” นายอานนท์ นำภา น.ส.ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล หรือ “รุ้ง” กับพวก ที่ก่อความวุ่นวายในห้องพิจารณาคดีระหว่างการไต่สวนพยานหลักฐานนัดแรก เมื่อวันที่ 15 มีนาคม ที่ผ่านมา

นายพริษฐ์ ได้ยืนบนเก้าอี้ในห้องพิจารณาคดี เพื่ออ่านแถลงการณ์ที่ได้เตรียมมา โดยอ้างว่าเป็นการระบายความอึดอัดใจ โต้แย้งศาลที่พวกเขาไม่ได้รับการประกันตัวระหว่างการพิจารณาคดี โดยเปรียบเทียบกับกรณีของแกนนำ กปปส. ที่ถูกศาลตัดสินความผิดไปแล้ว แต่กลับได้รับการประกันตัวในชั้นศาลอุทธรณ์ รวมไปถึงไม่ต้องถูกตัดผมอีกด้วย ความหมายก็คือ “สองมาตรฐาน” หรือไม่ได้รับความเป็นธรรม อะไรประมาณนั้นแหละ

ในวันนั้น นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ ยังได้ประกาศอดอาหารประท้วงศาลจนกว่าจะได้รับการประกันตัวออกไป โดยอ้างว่าจะขอดื่มแต่นม น้ำหวาน และน้ำดื่ม เท่านั้น

ตามรายงานข่าวยังบอกว่า เหตุการณ์ในวันนั้นหลังจากที่ศาลสั่งห้ามไม่ให้ นายพริษฐ์ ได้อ่านแถลงการณ์ในห้องพิจารณาคดี เนื่องจากผิดระเบียบจนต้องมีการย้ายห้องการพิจารณา โดยระหว่างนั้นก็เกิดเหตุการณ์วุ่นวาย โต้เถียง มีเสียงกรีดร้องของผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่ในห้องพิจารณาคดีและขว้างขวดน้ำลงบนพื้น แสดงความไม่พอใจออกมา

และก็ตามคาด เมื่อศาลได้นัดไต่สวน นายพริษฐ์ ชิวารักษ์ เกี่ยวกับการละเมิดอำนาจศาล ซึ่งหากมีความผิด ก็จะต้องโทษจำคุกเพิ่มเข้ามาอีก โดยโทษจำคุกฐานละเมิดอำนาจศาล สูงสุด 6 เดือน ปรับ 500 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก็ไม่รู้ว่าจะออกแบบไหน แม้ว่าพอคาดเดาได้อยู่แล้ว เพียงแต่ว่าต้องรอคำสั่งศาลออกมาก่อน

เอาเป็นว่าหากคิดว่า “พฤติกรรมที่ทำ เป็นเรื่องเท่ มีความกล้าหาญที่สุดในปฐพี ก็ทำไป” คงไม่มีใครไปขัดคอ เพียงแต่ว่าผลออกมาอย่างไรก็ต้องยอมรับ เพราะเมื่ออายุเกินยี่สิบปีแล้วถือว่าบรรลุนิติภาวะ เป็นผู้ใหญ่แล้ว คงจะใช้สิทธินักเรียนนักศึกษาลดครึ่งราคาคงไม่ได้

ขณะเดียวกัน เมื่อเข้าสู่ “กระบวนการยุติธรรม” ก็ถือว่าเป็นกติกาที่ต้องยอมรับ แม้ว่าจะไม่ถูกใจก็ตาม เพราะทุกคนที่ต้องคดีความก็ต้องเดินในเส้นทางเดียวกัน นั่นคือ การชี้ขาดจากศาล

อย่างไรก็ดี สิ่งที่เห็นในเวลานี้ ก็คือ พฤติกรรมของบรรดา “ม็อบสามนิ้ว” เท่าที่สังเกตเห็น ก็คือ ไม่มีท่าทีเคารพศาล ตรงกันข้ามกลับพยายาม “ดึงศาลลงมาเป็นคู่ขัดแย้ง” ซึ่งไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน และแน่นอนว่า พฤติกรรมแบบนี้หากพิจารณากันให้ลึกซึ้ง มันก็เหมือนมีเจตนา “กระทบชิ่ง” เนื่องจากศาลกระทำการภายใต้พระปรมาภิไธยในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือเปล่า

อีกทั้งเมื่อพิจารณาจากความเคลื่อนไหวที่เป็นอยู่ในเวลานี้ เป้าหมายของพวกเขาก็คือ มีเจตนา “ล้มล้างสถาบันพระมหากษัตริย์” อย่างชัดเจน และแกนนำหลักๆ ต่างก็ถูกดำเนินคดีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 มีคดียาวเป็นหางว่าว เรียกว่า หากมีความผิดจริงก็น่าจะมีโทษจำคุกกัน “นับร้อยปี” เลยทีเดียว เพราะแต่ละคนล้วนสะสมคดีกันไม่หยุดหย่อน กระทำซ้ำ จนเป็นสาเหตุหลักที่ศาลยกคำร้องประกันตัว หรือปล่อยตัวชั่วคราว โดยเหตุผลหลักนอกจากไม่หยุดพฤติกรรมทำผิดซ้ำกระทบต่อจิตใจของคนจำนวนมากแล้ว ยังมีเรื่องของอัตราโทษสูงที่เกรงจะหลบหนีอีกด้วย

ขณะที่อีกด้านหนึ่งพฤติกรรมและท่าทีดังกล่าวของบรรดาแกนนำม็อบสามนิ้ว ที่เริ่มขมวดปมมาเป็นลักษณะของการ “ข่มขู่ศาล” ดึงศาลลงมาเป็นคู่ขัดแย้ง แม้ว่าเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นแบบนี้ แต่ขณะเดียวกัน หากพิจารณาในเรื่อง “ตรรกะ” ถือว่าเป็นเรื่องพิลึก ซึ่งไม่รู้ว่าต้นคิดมาจากไหน มาจาก “คิดเอง” หรือว่าเชื่อคำยุยงของอาจารย์บางคนที่อยู่เบื้องหลังเด็กๆ “เยาวชน” พวกนี้ เป้าหมายก็เพื่อ “กระทบชิ่ง” และต้องการทำลายความน่าเชื่อถือลงไป ซึ่งเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง

อย่างไรก็ดี สิ่งที่ปรากฏเฉพาะหน้าและเป็นความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ คือ บรรดาแกนนำที่เป็นเยาวชนพวกนี้จะมีการ “สะสมคดี” เพิ่มขึ้นไปอีก จะต้องติดคุกเพิ่ม ขณะเดียวกัน เมื่อพิจารณาจากหนทางการต่อสู้ในแบบที่เป็นอยู่ก็น่าเหมือนดังที่ นักกฎหมายที่มีประสบการณ์บางคนได้กล่าวเอาไว้ว่า การเคลื่อนไหวแบบนี้ไม่ต่างจากการ “เอาหัวชนกำแพง” ไม่มีทางได้ผล

เพราะวิธีการข่มขู่ศาล เพื่อให้ข้อเรียกร้อง และสร้างแรงกดดันให้ตัวเองได้รับการประกันตัว รวมไปถึงไปถึงเป้าหมายสูงสุด จะได้รับชัยชนะนั้นเลือนรางแบบเพ้อฝันจริงๆ !!

แชร์กับเพื่อน

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

27 มิถุนายน 2565

นายกฯ อุ๊งอิ๊ง

อ่านต่อ
27 มิถุนายน 2565

มนต์ขลังของทักษิณ ที่ยังครอบงำสังคมไทย

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

เตรียมตัว! โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน จ่อเปิดรับผู้สนใจฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา 904 

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

การทรงงานของในหลวง 

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

ดร.นิว ขอบคุณ ‘สมศักดิ์เจียม’ ฉีกหน้ากากหัวหอกคณะราษฎร 

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

เปิดราคาที่สังคมไทยต้องจ่าย หาก ‘ทักษิณ’ กลับประเทศไทย! 

อ่านต่อ
Facebook Youtube Line
บริษัทบลูสกายแชนแนล
  • 2170 อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ชั้น 8
    แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
    กรุงเทพมหานคร 10310
  • 02-308-0020
line-logo-100
Copyright © 2021