► วิกฤตศรัทธาผู้นำ + การบริหารจัดการขาดประสิทธิภาพ
► ประชาชนกลัวติด กลัวตาย (ซึ่งเขามีสิทธิกลัว แต่กลัวแล้วทำยังไง? ก็แสดงออกต่างๆ กันไป ซึ่งบางการแสดงออกไม่ช่วยแก้ปัญหา แถมเพิ่มปัญหาด้วย)
► ไม่มียุทธศาสตร์ ไม่สื่อสารยุทธศาสตร์ ไล่แก้ปัญหาเฉพาะหน้า สะเปะสะปะ
► เจ้าหน้าที่ด่านหน้าสู้กันจนหลังแอ่น ขาดขวัญกำลังใจ ขาดอุปกรณ์ ขาดวัคซีน ขาดความรู้ความเข้าใจจากสังคม มาตรการส่วนบุคลเหยาะแหยะ มาตรการทางสังคมหย่อนหยาน มาตรการของรัฐล้มเหลว ไอซียูวิกฤต โรงพยาบาลคนไข้ล้น เบ่งโรงพยาบาลสนาม แต่บุคลากรเท่าเดิม
► ผู้คนแตกแยก การเมืองขึ้นสมอง ขาดความพร้อมเพรียงที่จะ “เอาชนะปัญหา” มุ่ง “เอาชนะกัน” มากกว่า
► วัคซีนที่มีก็ไม่เชื่อ วัคซีนที่เชื่อก็ไม่มี หมอยงพยายามเอาความรู้มาบริหารวัคซีนที่มี ให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น ก็โกรธ ก็เกลียด ก็จะปลดเขา รู้กว่า เก่งกว่า อย่างน่ามหัศจรรย์
► ล็อคดาวน์ แต่ไม่ไล่ตรวจเพื่อคัดแยกคนมีเชื้อออกมา ให้ปะปนกันอยู่อย่างนั้น ล็อคให้ติดกันใช่ไหมครับ
► ประชาชนกลุ่มหนึ่งเบื่อหน่าย ทนไม่ไหว รับไม่ได้ ผู้นำโง่เราจะตายกันหมด แต่ออกไปเพื่อปะทะกับเจ้าหน้าที่ เผานั่น พ่นนี่ อีกกลุ่มก็ทนไม่ได้ ตำหนิ เจ้าหน้าที่ก็ใช้มาตรการที่เข้าทาง สมใจอยากคนที่ต้องการ
► คนทำงานก็ทำไป แจกข้าวกล่อง ซื้อเครื่องมือแพทย์ บริจาคชุดพีพีอี หาเตียงให้ผู้ป่วย ส่งยาส่งสมุนไพร คนไม่ call out ก็ถูกด่า หาว่าเพิกเฉย กลัว เลีย รักษาประโยชน์ตัวเอง ฯลฯ
..
— ตรงไหน คือ “ทางรอด” ถามจริงๆ
.