Skip to content
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา

บ้านเมืองของเรา

“เสี่ยกวิ้น”อดข้าวแป้ก!! “3นิ้ว”แห่ช่วยหาทางลง

19 เมษายน 2564

เผยแพร่: 17 เม.ย. 2564 05:34   ปรับปรุง: 17 เม.ย. 2564 05:34   โดย: ผู้จัดการออนไลน์

เพนกวิน-พริษฐ์ ชิวารักษ์
ป้อมพระสุเมรุ

ผู้จัดการสุดสัปดาห์ –  จาก “คณะราษฎร” มาถึง “คณะราษมัม”

 และจาก “เพนกวิน” พริษฐ์ ชิวารักษ์” ถึง “หม่าม้าสุ” สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ ตามคิวที่ “ก๊วนสามนิ้ว” กำลังฉายสปอตไลท์ไปที่ตัวละครอย่าง “สุรีย์รัตน์” ผู้เป็นแม่ที่กำลังทุกข์ระทมกับการที่ลูกชายต้องอดอาหารเรือนจำครบ 30 วัน 

ทุกขุมข่ายพยายามงัดเอาประเด็นดรามา สะเทือนอารมณ์ กับคนหนึ่งๆ ที่ไม่สามารถแม้กระทั่งเข้าไปแตะเนื้อต้องตัวได้ เพราะติดมาตรการป้องกันโควิด-19 ของเรือนจำ ตลอดจนการดิ้นรนหาช่องทางขอประกันตัวต่อศาล แม้จะถูกปฏิเสธครั้งแล้วครั้งเล่า

 เรียกว่า ช่วงตลอด 1 เดือนที่ผ่านมา “แม่เพนกวิน” คือ ตัวละครที่ “ก๊วน 3 นิ้ว” หยิบขึ้นมาสร้างสตอรี่มากที่สุด 

ปฏิเสธไม่ได้ว่า ในความเป็นแม่ย่อมต้องห่วงลูกชายที่เลี้ยงมาแต่อ้อนแต่ออด ซึ่งนั่นไม่ผิด หากแต่ทีมทนายความ รวมถึงตัว “เพนกวิน” เองต่างรู้ดีแก่ใจว่า เหตุใดจึงไม่ได้รับการประกันตัว

เพราะหากดูกรณีของ “หมอลำแบงค์” ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม  ผู้ต้องหาในคดีประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 เหมือนกัน ซึ่งได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวจากเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานครมาก่อนหน้านี้แล้ว จะรู้คำตอบว่าควรทำอย่างไร

เงื่อนไขสำคัญแต่ “ง่ายที่สุด” ที่ “หมอลำแบงค์” ได้รับอิสรภาพก่อนเพื่อนๆ คนอื่น ไม่ว่าจะเป็น “เพนกวิน” หรือ “ไผ่ดาวดิน” จตุภัทร์ บุญภัทรรักษา ห้ามร่วมชุมนุม และห้ามไปร่วมกิจกรรมที่ทำให้เสื่อมเสียต่อสถาบัน

 “ผมเหมือนตายแล้วได้คืนชีพ ทำให้ต้องรับเงื่อนไขของศาลที่ห้ามชุมนุม ห้ามพูดถึงสถาบันฯ (สถาบันพระมหากษัตริย์)” 

 นี่คือ ตัวแปรสำคัญที่ทำให้ “หมอลำแบงค์” ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวออกมา ในทางตรงกันข้าม คนที่ยังไม่ได้รับการปล่อยตัวออกมา ก็อนุมานได้ว่า ไม่ยอมรับเงื่อนไขนี้ 

การไม่ให้ประกันตัว “เพนกวิน” ที่ “ก๊วน 3 นิ้ว” หรือ “แก๊งก้าว” ที่นั่งบนภูเชียร์เด็กเย้วๆ พยายามชี้นำกับสังคมว่า เป็นการกลั่นแกล้ง หรือขังลืมนั้น ข้อเท็จจริงกลับไม่ได้เป็นเช่นนั้น

จะเห็นว่า หลายๆ คดี ไม่เฉพาะของ “ก๊วน 3 นิ้ว” เวลาศาลอนุญาตให้ประกันตัวจะมีเงื่อนไขสำคัญคือ “ห้ามไปกระทำผิดซ้ำ” คนที่รับเงื่อนไขนี้แทบทุกรายได้อิสรภาพออกมาสู้คดีข้างนอกหมด

แต่ “เพนกวิน และคณะ” เลือกที่จะไม่รับเงื่อนไขดังกล่าว จึงไม่แปลกที่ทุกวันนี้ยังคงต้องอดอาหารอยู่ในเรือนจำ

 พฤติกรรมของ “เพนกวิน” เอง ก็ไม่ได้เป็นคุณที่จะทำให้ได้รับการประกันตัวแต่อย่างใด ตามที่มีรายงานข่าวออกมาว่า แม้แต่ในเรือนจำ เวลาเพลงชาติขึ้น บรรดาแกนนำ 3 นิ้ว นอกจากจะไม่ลุกขึ้นยืนตรงเคารพแล้ว ยังเอาตัวเองไปนอนเกลือกกลิ้งประท้วงกับพื้น 

นัยว่า ไม่เคารพศรัทธาต่อสถาบันหรือหลักการใดๆ ที่บรรพบุรุษยึดถือมาช้านานอีกต่อไป

หรือเมื่อวันที่ 15 มี.ค.ที่ผ่านมา ในนัดที่ศาลอาญา ตรวจพยานหลักฐานคดีชุมนุมกลุ่มคณะราษฎร 2563 ซึ่งปรากฎว่าระหว่าง “เพนกวิน” ปฎิบัติตัวไม่เรียบร้อย ด้วยการโต้ตอบผู้พิพากษาในขณะปฎิบัติหน้าที่ และขออ่านแถลงการณ์ โดยลุกขึ้นยืนบนเก้าอี้จนเกิดเหตุการณ์วุ่นวายภายในห้องพิจารณา

และแม้ภายหลังจะถูกศาลจำคุก 1 เดือน จากกรณีลุกยืนบนเก้าอี้ หากแต่ก็ลดโทษให้เหลือกักขัง 15 วัน ซึ่งถือว่า ศาลค่อนข้างให้ความเมตตามากด้วยซ้ำ

กระทั่งการไม่อนุญาตให้ระกันตัวจากเรือนจำก็ยิ่งต้องนับเป็นความเมตตาอย่างสูงของคณะผู้พิพากษา เพราะรู้ว่าหากออกมา “เพนกวิน แอนด์เดอะแก๊ง” ก็คงหมกมุ่นกับการทำผิด หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ ขัดประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 กันอย่างไม่หยุดหย่อน

สะสมแต้มคุกกันยิ่งกว่าแสตมป์เซเว่นฯ

อย่างไรก็ตาม ต้องยอมรับว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา “ก๊วน 3 นิ้ว” เองต่างหากที่ชะล่าใจมาโดยตลอด ย่ามใจว่า ตำรวจจับได้แล้วปล่อย ได้รับประกันตัวเสมอ แต่แท้จริงแล้วมันคือ การขุดบ่อล่อปลาของเจ้าหน้าที่ จนเข้าเงื่อนไขที่จะคัดค้านการประกันตัวได้ เพราะกระทำผิดซ้ำซาก

แน่นอนว่า หาก “เพนกวิน” และแกนนำคนอื่นๆ ในเรือนจำ ยอมรับเงื่อนไขที่ว่า ออกไปจะไม่กระทำผิดแบบเดิมอีก ไม่ว่าจะเป็นการชุมนุม หรือการพูดพาดพิงสถาบัน เชื่อว่า คงได้รับการประกันตัวเฉกเช่นเดียวกับ “หมอลำแบงค์” ดังนั้น ทุกอย่างอยู่ที่ตัวเองหมด

ขณะที่มาตรการ “อารยะขัดขืน” ด้วยการอดอาหารที่กระทำอยู่มาครบเดือน ที่หากต่อจิ๊กซอว์แล้ว ก็เหมือนว่า มีใครบางคนพยายามสร้างเกมนี้ขึ้นมา

การอดอาหารของ “เพนกวิน” สอดประสานกันการพยายามยื่นประกันตัว 10 กว่าครั้ง ทั้งที่ทนายความรู้อยู่แก่ใจว่า อย่างไรก็ไมได้ประกันตัวหากไม่สามารถรับเงื่อนไขของศาลได้ เพียงแต่ว่า พยายามยื่นเข้าไปเพื่อให้เห็นว่า “ก๊วน 3 นิ้ว” ไม่ได้รับความเมตตา

เช่นเดียวกับอีเวนท์ยืน 112 นาที หน้าศาลและเรือนจำ ที่พยายามทำกันมาตลอดในช่วงที่แกนนำ 3 นิ้วหลายคนถูกจับในข้อหาดังกล่าว ก็เป็นส่วนหนึ่งของขบวนการปั่นกระแสมวลชน

 พอๆ กันกับบรรดานักวิชาการ นักการเมือง นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่พยายามจะปลุกปั่นว่า หาก “เพนกวิน” อดอาหารจนเสียชีวิต จะส่งผลลบต่อสถานการณ์เอง เพราะจะทำให้มวลชนลุกฮือขึ้นมาขับไล่รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา อย่างอุ่นหนาฝาคั่ง 

หรือแม้แต่ความพยายามกล่าวถึงเรื่องความรัก ความผูกพัน ความห่วงใย ระหว่าง “เพนกวิน” กับ “แม่” เพื่อต้องการสร้างดรามา ให้สังคมเกิดความรู้สึกสะเทือนใจและเห็นใจ

หากแต่เมื่อพยายามเดินเกมมาสักพักหนึ่ง กลับพบว่า เป็นเกมที่ผิด เพราะการอดอาหารไม่สามารถกดดันกระบวนการยุติธรรมได้ ไม่เช่นนั้นผู้ต้องขัง หรือนักโทษหลายคนคงใช้วิธีนี้เพื่อเรียกร้องให้ตัวเองได้รับอิสรภาพ

ขณะเดียวกัน กระแสตอบรับต่อการอดอาหารของ “เพนกวิน” ไม่ได้เปรี้ยงปร้างเท่าที่ควร แม้จะมีการเคลื่อนไหวในเรื่องนี้อยู่ภายนอกเรือนจำ โดยเฉพาะการยืน 112 นาทีทุกวันเพื่อแสดงสัญลักษณ์ หากแต่แทบไม่ได้รับความสนใจจากสังคม

มีเพียงสื่อบางแห่งเท่านั้นที่พยายามนำเสนอให้ รวมถึงเพจต่างๆ ของแนวร่วมก๊วน 3 นิ้วเท่านั้นที่พยายามสร้างอีเวนต์เกี่ยวกับการอดอาหารของ “เพนกวิน” และ “รุ้ง” ปนัสยา สิทธิจิรวัฒนกุล เพื่อให้ดูเป็น “ฮีโร่” ที่เสียสละ

ส่วนหนึ่งที่การอดอาหารของ “เพนกวิน” ได้รับความสนใจไม่มากนัก มีเพียงบางคนพยายามสร้างให้เป็นเรื่องคอขาดบาดตายนั้น เพราะสิ่งที่กำลังทำคือ พฤติกรรมเอาแต่ใจตัวเอง มากกว่าการอารยะขัดขืน

อีกทั้งการอดอาหารของ “เพนกวิน” เอง ดูโปรโมตเกินจริงมากไปหน่อย เพราะแม้จะไม่ได้รับประทานข้าว แต่ก็มีข้อมูลว่าได้รับประทานอาหารชนิดอื่นทดแทน เช่น นม เกลือแร่ ซึ่งมีคุณค่าทางอาหารสูง ไม่ได้มีแต่เพียงน้ำอย่างที่มีการโพนทะนากันออกมา

สุรีย์รัตน์ ชิวารักษ์ แม่ของเพนกวิน

“หมอลำแบงค์” ปติวัฒน์ สาหร่ายแย้ม
 และในอดีตเองเคยมีการอดอาหารในลักษณะ “สันติอหิงสา” หลายกรณี ทั้งกรณี “มหาจำลอง” พล.ต.จำลอง ศรีแมือง อดีตผู้ว่า กทม. และ “จอมอดข้าว” ร.ต.ฉลาด วรฉัตร นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ที่ประท้วงอดอาหารครั้งแรกในเหตุการณ์พฤษภาทมิฬ 2535 เรียกร้องให้ พล.อ.สุจินดา คราประยูร ลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี แต่ก็ไม่เป็นผล 

ต่อมา ร.ต.ฉลาก กลับมาประท้วงอดอาหาร ต่อต้านการรัฐประหาร 19 ก.ย. 2549 และอีกครั้งในวัย 71 ปี ออกมาต่อต้านรัฐประหารปี 2557 โดยอดอาหารมาราธอน 45 วัน และต้องยกธงขาวด้วยปัญหาสุขภาพ

 นอกจากนี้ยังมีการอดข้าวประท้วงระดับโลกอีกหลายครั้ง ที่รู้จักกันดีคงเป็นกรณีช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ของ “มหาตมะคานธี” ในวัย 73 ปี เรียกร้องให้อังกฤษที่ยังคงไม่คืนเอกราชให้แก่อินเดีย ปล่อยตัวผู้นำคนสำคัญ รวมทั้งตัวเขา เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป 21 วัน ในที่สุดก็ได้รับการปล่อยตัว และอังกฤษประกาศคืนเอกราชให้อินเดีย ในปี 2491 

การอดข้าวที่เป็นประวัติศาสตร์ในอดีต กับการอดข้าวของ “เพนกวิน” ดูเหมือนจะเทียบกันไม่ได้ แตกต่างกันฟ้าหับเหว เพราะไม่เพียงจะถูกมองว่าเป็นพฤติกรรมเอาแต่ใจตัวเองของ “เพนกวิน” แล้ว ยังถูกมองว่า การกระทำแบบนี้ไม่ต่างอะไรจาก “อภิสิทธิ์ชน” ในเรือนจำ เพราะต้องได้รับการดูแลเป็นพิเศษมากกว่าคนอื่นๆ ราวกับ “วีไอพี”

ทุกคนต้องคอยมาสอดส่อง ประคบประหงมไม่ให้เป็นอะไร ทั้งที่ในเรือนจำเองมีผู้ต้องขังและนักโทษคนอื่นๆ อีกมากมาย ที่ไม่ได้รับการปฏิบัติเยี่ยงนี้ กลายเป็นว่า ในขณะที่ชาว 3 นิ้วกำลังเป็นห่วงที่ “เพนกวิน” ที่อดอาหารจนต้องนั่งวีลแชร์ กลัวจะตายวันตายพรุ่ง แต่ลืมคิดไปว่า แกนนำของตัวเองมีชีวิตที่ดีกว่าผู้ต้องขังคนอื่นๆ เสียอีก

แต่อย่างไรก็ดี ดูเหมือนว่า ใครบางคนที่อยู่เบื้องหลังขบวนการนี้เริ่มจะรู้สึกแล้วว่า เกมๆ นี้มันไปต่อไม่ได้ ต่อให้ “เพนกวิน” จะอดอาหารยาวนานไปอีกหลายเดือนก็ตาม หรือหากต้องตายก็คงเป็นการตายเปล่า เพราะมันไม่ใช่วิธีที่จะทำให้ได้รับการประกันตัวออกมา ตราบใดที่แกนนำ 3 นิ้วรายนี้ ยังคงไม่ยอมรับเงื่อนไขว่า หากออกไปแล้วจะไม่มีพฤติกรรมซ้ำซากแบบเดิมอีก

ม็อบ 3 นิ้วที่มาชุมนุมเรียกร้องให้ประกันตัว “เพนกวิน”
 ล่าสุด “คณะราษฎร” และ “ราษมัม” เลยหาอีเวนต์ใหม่ ด้วยการผุด “จดหมาย 112 ฉบับ ขอให้เพนกวิน-รุ้งเลิกอดอาหาร” โดยระบุว่า แม้ทุกคนจะเคารพในการตัดสินใจของทั้งเพนกวินและรุ้ง แต่ก็ต้องการมีพวกเขาร่วมทางเคียงบ่าเคียงไหล่บนเส้นทางการต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยไปด้วยกัน หลายวันมานี้มวลชนจำนวนมากออกมาช่วยกันส่งเสียงเรียกร้องให้พวกเขายุติการอดอาหาร รักษาชีวิตไว้ แม้ความยุติธรรมยังมาไม่ถึง แต่ระหว่างช่วงวันหยุดเทศกาล เสียงเหล่านั้นยังไปไม่ถึงคนในเรือนจำ 

“คณะราษมัม” กลุ่มแม่และครอบครัวของผู้ถูกคุมขัง จึงเสนอวิธีการให้ใครก็ตามที่เห็นด้วยกับการยุติการอดอาหาร ร่วมกันพิมพ์ข้อความในช่องคอมเมนต์ หรือส่งภาพจดหมายเขียนจดหมายด้วยลายมือมาในคอมเมนต์ใต้โพสต์นี้ ทีมงานจะรวบรวมจดหมายให้ได้มากที่สุดเพื่อส่งต่อให้ทนายมอบให้ถึงมือเพนกวินและรุ้ง

ล้อกับข้อความของ “ศาสดา 3 นิ้ว” สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล  อดีตอาจารย์ภาควิชาประวัติศาสตร์ คณะศิลปศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่หลบหนีคดีอยู่ในต่างประเทศ ที่ระบุว่า อยากบอก “เพนกวิน” ให้เลิกอดอาหาร เพื่อรักษาชีวิตไว้

 ดูเผินๆ เหมือนจะเป็นห่วง “เพนกวิน-รุ้ง” จึงอยากให้ถอย แต่หากมองลึกๆ นี่คือ การหาบันไดลงให้กับแกนนำที่อดอาหาร หลังจากประเมินแล้วว่า อดไปตายฟรี ไม่มีประโยชน์. 

แชร์กับเพื่อน

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

27 มิถุนายน 2565

นายกฯ อุ๊งอิ๊ง

อ่านต่อ
27 มิถุนายน 2565

มนต์ขลังของทักษิณ ที่ยังครอบงำสังคมไทย

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

เตรียมตัว! โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน จ่อเปิดรับผู้สนใจฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา 904 

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

การทรงงานของในหลวง 

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

ดร.นิว ขอบคุณ ‘สมศักดิ์เจียม’ ฉีกหน้ากากหัวหอกคณะราษฎร 

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

เปิดราคาที่สังคมไทยต้องจ่าย หาก ‘ทักษิณ’ กลับประเทศไทย! 

อ่านต่อ
Facebook Youtube Line
บริษัทบลูสกายแชนแนล
  • 2170 อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ชั้น 8
    แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
    กรุงเทพมหานคร 10310
  • 02-308-0020
line-logo-100
Copyright © 2021