รายการบ้านเมืองของเรา 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2564
ดำเนินรายการโดย จิตกร บุษบา และ นฤมล พุกยม
15 พ.ย.64 ดร.สุวินัย ภรณวลัย ประธานยุทธศาสตร์วิชาการ สถาบันทิศทางไทย อดีตอาจารย์ประจำคณะเศรษฐศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก Suvinai Pornavalai แสดงความตคิดเห็นในประเด็นการเคลื่อนไหวของม็อบ 3 นิ้วว่า….
ม็อบ14 พฤศจิกายนเมื่อวานเป็นม็อบที่โดดเดี่ยว แถมมีคนมาชุมนุมแค่หลักร้อยเท่านั้นเอง โดยพวกแกนนำเหล่าคนดังทุกคนพร้อมใจกันเท”ม็อบกบฏ”เมื่อวานอย่างพร้อมเพรียงกัน
นี่คืออิทธิฤทธิ์ของคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาในวันที่ 10 พฤศจิกายนนั่นเอง
มีคนต่างแดนเฝ้ารออย่างจดจ่อให้ “ม็อบกบฏ” ถูกทางการกวาดล้างอย่างเฉียบขาดและรุนแรงจนมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก …เพื่อที่จะได้เข้าทาง”โมเดลคนเสื้อแดงปี 2553″ ที่ทำให้ฝ่ายตัวเองเอาไปใช้หาเสียงกับมวลชนเสื้อแดง แปรความคับแค้นเป็นการกาบัตรเลือกตั้งแทน … จนทำให้พรรคของฝ่ายตนชนะถล่มทะลายในปี 2554
ฝ่าย 3ป.ผู้กุมอำนาจรัฐย่อมรู้กลยุทธ์ของอีกฝ่ายเป็นอย่างดี และไม่ตกหลุมพราง
ดังนั้นที่ผ่านมาเราจึงเห็นทางการจัดการกับม็อบสามนิ้วอย่างละมุนละม่อมและตามหลักสากล โดยยึดกระบวนการตามกฏหมายเป็นหลัก … จนแทบเหมือนกับทำตัว “เลี้ยงไข้” ม็อบสามนิ้วเอาไว้เหมือนกับจะรอให้ม็อบสามนิ้วฝ่อไปเองแม้จะใช้เวลาหน่อยก็ตาม
ผ่านไปปีกว่า เราต้องยอมรับว่ากลยุทธ์”ตั้งรับสถานเดียวแบบไร้พ่าย”ของทางการภายใต้แนวทางของฝ่าย 3 ป. ค่อนข้างได้ผลมากทีเดียว เพราะไม่ว่าอีกฝ่ายจะพยายามยั่วยุแค่ไหน ก็ไม่สามารถทำให้ทางการใช้ความรุนแรงปราบปรามการชุมนุมจนเกิดการนองเลือดได้
นอกจากนี้เราต้องยอมรับว่ามวลชนฝ่ายปกป้องสถาบันที่มีอยู่ค่อนประเทศมีความอดทนสูงมากและเริ่มรู้ทันกลยุทธ์ของฝ่ายตรงข้าม … จึงไม่ออกไปปะทะทางกายภาพด้วย แต่หันมาเพิ่มทักษะการเล่นโซเชียล และออกไปปะทะทางความคิดในโลกโซเชียลแทน
นี่คือ “ยุทธการขึ้นภูดูฝ่ายนั้นกัดกันเอง” อันลือลั่นของฝ่าย “สลิ่ม”ในช่วงที่ผ่านมา
ตัวแปรจริงๆของสถานการณ์ในภาพรวม น่าจะอยู่ความแตกแยกภายในพรรคพลังประชารัฐมากกว่า ซึ่งนำไปสู่ความระหองระแหงในความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องสามป.
จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่ภายในพรรคพลังประชารัฐมีความเคลื่อนไหวดันจักรทิพย์ขึ้นเป็นตัวสำรองแทนประยุทธ์ ในการเลือกตั้งครั้งหน้า
โดยส่วนตัว ผมมองว่าพรรคก้าวไกลมีโอกาสโดนยุบพรรคสูงมาก
ในการเลือกตั้งครั้งหน้า พรรคเพื่อไทยน่าจะมีความได้เปรียบโดยสัมพัทธ์เมื่อเทียบกับพรรคพลังประชารัฐที่มีรอยร้าวแล้ว รวมทั้งอนาคตที่ไม่แน่นอนของประยุทธ์ว่าจะวางมือหรือไปต่อ
พรรคไทยภักดีคือตัวแปรสำคัญในการเลือกตั้งครั้งหน้า … เพราะมีความเป็นไปได้มากพอสมควรที่พรรคเพื่อไทยจะจับมือกับพรรคพลังประชารัฐที่ไร้ลุงตู่ สถาปนา “ระบอบทักษิณที่ไร้ทักษิณ” ขึ้นมาครองเมืองแทน