Skip to content
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา

บ้านเมืองของเรา

“ยิ่งลักษณ์” โหน Soft Power – “นายกฯ” ปลื้ม Soft Power

27 เมษายน 2565

รายการบ้านเมืองของเรา 27 เมษายน พ.ศ. 2565
เวลา 18.00-19.00 น. ดำเนินรายการโดย จิตกร บุษบา และ นฤมล พุกยม

“ยิ่งลักษณ์”โหนSoft Powerโพสต์โชว์ภาพสวมชุดผ้าไทยพบผู้นำโลก

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความและภาพการสวมใส่ชุดผ้าไทยในโอกาสต่างๆ ในสมัยดำรงตำแหน่งอดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านทางโซเชียลมีเดียหลายช่องทางรวมถึงแฟนเพจเฟซบุ๊ก พร้อมระบุข้อความว่า ขอบคุณพี่โทนี่ หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มแคร์ ที่พูดถึงความหมายของ Soft Power อย่างชัดเจนและหลากหลายมุมมองในคลับเฮาส์เมื่อคืนที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือการยกระดับผ้าไทยให้เป็น Soft Power ว่าสามารถทำได้ผ่านการประยุกต์การตัดเย็บที่เป็นสากล ทันสมัย
 

น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุต่อไปว่า ทำให้ย้อนนึกถึงช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้ใช้โอกาสนี้ใส่ชุดผ้าไทย ผ้าขาวม้าที่ชาวบ้านผูกเอวรับขวัญ มาตัดชุดใช้ในการพบกับผู้นำนานาประเทศ เพื่อที่จะบอกว่าผ้าไทยของเราสวยและมีฝีมือประณีตแค่ไหน แถมใส่แล้วก็ไม่แก่และไม่เชยอย่างที่หลายคนคิดอีกด้วย

“ยิ่งลักษณ์”โหนSoft Powerโพสต์โชว์ภาพสวมชุดผ้าไทยพบผู้นำโลก
“ยิ่งลักษณ์”โหนSoft Powerโพสต์โชว์ภาพสวมชุดผ้าไทยพบผู้นำโลก
“ยิ่งลักษณ์”โหนSoft Powerโพสต์โชว์ภาพสวมชุดผ้าไทยพบผู้นำโลก

.

“นายกฯ” ปลื้ม Soft Power หนุน ตัวเลข การส่งออก ของไทย พุ่ง

นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจตัวเลขการส่งออกของประเทศไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการนำนโยบายของรัฐบาล ไปขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยสนับสนุนตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นคือ การส่งเสริมและผลักดัน Soft Power ของรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งรัดการส่งออกสินค้าใน 4 หมวดสำคัญ ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์สุขภาพความงาม และสินค้าอัตลักษณ์ไทย การจัดทำมาตรการเชิงรุกผลักดันการส่งออกผลไม้การผลักดันการค้าชายแดน ซึ่งมีคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ ยุโรป เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และอาเซียน ที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

นายธนกรฯ กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกในเดือน มี.ค.2565 มีมูลค่า 28,859.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.5% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 คิดเป็นเงินบาท  มีมูลค่า 922,313 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติการส่งออกตั้งแต่ปี 2534 การนำเข้ามีมูลค่า 27,400.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า887,353.2 ล้านบาท เกินดุลการค้า 1,459.1 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 34,960.1 ล้านบาท

สำหรับตลาดและการลงทุนในประเทศ เดือนมี.ค.2565 คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 53 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจจำนวน 17 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 36 ราย มีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 10,838 ล้านบาท ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ เดือนมี.ค.2565 พบว่า มีการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 10 ราย คิดเป็น 19% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด ลงทุนที่กรุงเทพฯ 29 ราย คิดเป็น 55% และที่อื่น ๆ 14 ราย คิดเป็น 26% มีเงินลงทุน 6,323 ล้านบาท คิดเป็น 58% ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยประเทศที่ลงทุนสูงสุด จีน 3 ราย ลงทุน 3,189 ล้านบาท ญี่ปุ่น 2 รายลงทุน 630 ล้านบาท และสหรัฐฯ 1 ราย ลงทุน 637 ล้านบาท ที่เหลือเป็นประเทศอื่น ๆ 

“ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับประเทศไทยทั้งการส่งออก และการลงทุนภายในประเทศ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและศักยภาพของประเทศเรา ยืนยันรัฐบาลมุ่งสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากไทยเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก พร้อมมุ่งมั่นช่วยเหลือ สนับสนุนผู้ส่งออก นักลงทุน ให้มีพื้นที่แข่งขันได้ในเวทีโลก โดยตอบสนองนโยบายของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทุกภาคส่วนเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายธนกรฯ กล่าว

นายธนกร กล่าวอีกว่า นายกฯ ติดตามและชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้นำแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ไปต่อยอดการพัฒนาเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากผู้ประกอบการในชุมชนต่างๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น หวังเป็นการพัฒนายกระดับเศรษฐกิจฐานรากของไทยให้สามารถออกสู่ตลาดสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ 

โดยโครงการพัฒนาและส่งเสริมสินค้า OTOP สู่ตลาดสากล “โอทอปพรีเมียมโกอินเตอร์(OTOP Premium Go Inter)” ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำเป็นไปตามแนวทางที่นายกฯ ให้ความสำคัญ รัฐบาลมีความยินดีที่โมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เป็นแกนหลักในการดำเนินงานเพื่อสร้างความยั่งยืนในตลาดสากลภายใต้การใช้ประโยชน์จากโอกาส สิ่งของ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องถิ่น สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ที่นานาประเทศกำลังให้ความสำคัญด้านการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้โลกเน้นการผลิตสินค้าที่เกิดคาร์บอนต่ำและไม่เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนนี้ถือเป็นโอกาสในการผลักดันสินค้าระดับท้องถิ่นไทยให้สามารถเป็นส่วนหนึ่งในตลาดนานาชาติได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น 

โดยรัฐบาลสนับสนุนการผลักดันให้สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP (One Tambon One Product) มีส่วนในการขยายโอกาสแก่ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนที่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและมีศักยภาพสูงด้านการแข่งขันให้ง่ายต่อการเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองและธุรกิจ เข้าถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกหรือให้คุณประโยชน์ด้านการผลิตและการบริการ  อีกทั้งเพื่อแสวงหาแหล่งทุนและตลาดการค้า ต่อยอดผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาชุมชนให้เป็นที่รู้จักและเกิดการบริโภค เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น 

นายธนกร กล่าวว่า นายกฯ เชื่อมั่นและชื่นชมศักยภาพของคนไทยทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตนเองและชุมชนได้ โดยได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการเสริมสร้างศักยภาพด้านการแข่งขัน การควบคุมมาตรฐานสินค้า รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์เผยแพร่องค์ความรู้ประสบการณ์ คำแนะนำ และโอกาสอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนา ต่อยอด และเพิ่มโอกาสการสร้างพื้นที่ทางการตลาดสินค้าภูมิปัญญาชุมชนของผู้ประกอบการธุรกิจทั้งในระดับประเทศและในระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง ทั้งนี้ นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายในการร่วมชูโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG อย่างต่อเนื่อง และหวังให้การสนับสนุนสินค้า OTOP ในครั้งนี้ เป็นความสำเร็จในการการดำเนินงานเสริมสร้างและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยแนวด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่างๆ ของโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มสินค้า OTOP สู่ตลาดสากล ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) กระทรวงพาณิชย์ ผ่านช่องทางเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/otopgointer/

.

น้ำข้าวกล้องงอกผสมธัญพืช

  ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ 100% ประกอบไปด้วย  ข้าวกล้องงอกหอมมะลิแดง ,ข้าวโอ๊ต ,ข้าวก่ำงอก , ข้าวสาลี , ข้าวบาร์เลย์ , ลูกเดือย และ นมถั่วเหลือง  ไม่ใส่สารกันบูดและไม่แต่งสีแต่งกลิ่น  เข้มข้น คล้ายซุป มีรสหวานน้อย สามารถเปิดดื่มได้เลย หรือเพิ่มความอร่อยโดยการเทใส่ชามอุ่นทานร้อนๆ  

   จุดเด่นคือในขวดมีเม็ดธัญพืชอยู่ และสามารถเก็บได้ 1 ปีเต็มโดยไม่ต้องแช่เย็นเพราะใช้วิธีการ sterilization ช่วยยืดอายุ

แชร์กับเพื่อน

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

24 มิถุนายน 2565

เตรียมตัว! โรงเรียนจิตอาสาพระราชทาน จ่อเปิดรับผู้สนใจฝึกอบรมหลักสูตรจิตอาสา 904 

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

การทรงงานของในหลวง 

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

ดร.นิว ขอบคุณ ‘สมศักดิ์เจียม’ ฉีกหน้ากากหัวหอกคณะราษฎร 

อ่านต่อ
24 มิถุนายน 2565

เปิดราคาที่สังคมไทยต้องจ่าย หาก ‘ทักษิณ’ กลับประเทศไทย! 

อ่านต่อ
22 มิถุนายน 2565

ปลื้มปีติ ‘ในหลวง’ พระราชทานปริญญาบัตรให้บัณฑิตที่หายป่วยโควิดเป็นกรณีพิเศษ 

อ่านต่อ
22 มิถุนายน 2565

‘ผู้พันเบิร์ด’ เล่า ‘ร.10’ ทรงงานแบบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

อ่านต่อ
Facebook Youtube Line
บริษัทบลูสกายแชนแนล
  • 2170 อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ชั้น 8
    แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
    กรุงเทพมหานคร 10310
  • 02-308-0020
line-logo-100
Copyright © 2021