รายการบ้านเมืองของเรา 27 เมษายน พ.ศ. 2565
เวลา 18.00-19.00 น. ดำเนินรายการโดย จิตกร บุษบา และ นฤมล พุกยม
“ยิ่งลักษณ์”โหนSoft Powerโพสต์โชว์ภาพสวมชุดผ้าไทยพบผู้นำโลก
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความและภาพการสวมใส่ชุดผ้าไทยในโอกาสต่างๆ ในสมัยดำรงตำแหน่งอดีตนายกรัฐมนตรี ผ่านทางโซเชียลมีเดียหลายช่องทางรวมถึงแฟนเพจเฟซบุ๊ก พร้อมระบุข้อความว่า ขอบคุณพี่โทนี่ หรือ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และกลุ่มแคร์ ที่พูดถึงความหมายของ Soft Power อย่างชัดเจนและหลากหลายมุมมองในคลับเฮาส์เมื่อคืนที่ผ่านมา หนึ่งในนั้นคือการยกระดับผ้าไทยให้เป็น Soft Power ว่าสามารถทำได้ผ่านการประยุกต์การตัดเย็บที่เป็นสากล ทันสมัย
น.ส.ยิ่งลักษณ์ ระบุต่อไปว่า ทำให้ย้อนนึกถึงช่วงเวลาที่ดำรงตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ก็ได้ใช้โอกาสนี้ใส่ชุดผ้าไทย ผ้าขาวม้าที่ชาวบ้านผูกเอวรับขวัญ มาตัดชุดใช้ในการพบกับผู้นำนานาประเทศ เพื่อที่จะบอกว่าผ้าไทยของเราสวยและมีฝีมือประณีตแค่ไหน แถมใส่แล้วก็ไม่แก่และไม่เชยอย่างที่หลายคนคิดอีกด้วย
.
“นายกฯ” ปลื้ม Soft Power หนุน ตัวเลข การส่งออก ของไทย พุ่ง
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม พอใจตัวเลขการส่งออกของประเทศไทย ซึ่งเป็นผลมาจากการนำนโยบายของรัฐบาล ไปขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม โดยปัจจัยสำคัญ ที่ช่วยสนับสนุนตัวเลขการส่งออกเพิ่มขึ้นคือ การส่งเสริมและผลักดัน Soft Power ของรัฐบาล โดยกระทรวงพาณิชย์ ได้เร่งรัดการส่งออกสินค้าใน 4 หมวดสำคัญ ได้แก่ อาหาร ดิจิทัลคอนเทนต์สุขภาพความงาม และสินค้าอัตลักษณ์ไทย การจัดทำมาตรการเชิงรุกผลักดันการส่งออกผลไม้การผลักดันการค้าชายแดน ซึ่งมีคู่ค้าสำคัญ ได้แก่ สหรัฐฯ ยุโรป เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย และอาเซียน ที่มีแนวโน้มจะซื้อสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
นายธนกรฯ กล่าวว่า ตัวเลขการส่งออกในเดือน มี.ค.2565 มีมูลค่า 28,859.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 19.5% ขยายตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 13 คิดเป็นเงินบาท มีมูลค่า 922,313 ล้านบาท ถือเป็นมูลค่าการส่งออกสูงที่สุดในรอบ 30 ปี นับตั้งแต่มีการบันทึกสถิติการส่งออกตั้งแต่ปี 2534 การนำเข้ามีมูลค่า 27,400.6 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 18% คิดเป็นเงินบาท มูลค่า887,353.2 ล้านบาท เกินดุลการค้า 1,459.1 ล้านเหรียญสหรัฐ คิดเป็นเงินบาทมูลค่า 34,960.1 ล้านบาท
สำหรับตลาดและการลงทุนในประเทศ เดือนมี.ค.2565 คณะกรรมการการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว ได้อนุญาตให้คนต่างชาติเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในประเทศไทย จำนวน 53 ราย โดยเป็นการลงทุนผ่านช่องทางการขอรับใบอนุญาตประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว และการขอหนังสือรับรองการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว แบ่งเป็นใบอนุญาตประกอบธุรกิจจำนวน 17 ราย และหนังสือรับรองประกอบธุรกิจ จำนวน 36 ราย มีเม็ดเงินลงทุนทั้งสิ้น 10,838 ล้านบาท ส่วนการลงทุนในพื้นที่ EEC ของนักลงทุนต่างชาติ เดือนมี.ค.2565 พบว่า มีการลงทุนในพื้นที่ EEC จำนวน 10 ราย คิดเป็น 19% ของจำนวนนักลงทุนทั้งหมด ลงทุนที่กรุงเทพฯ 29 ราย คิดเป็น 55% และที่อื่น ๆ 14 ราย คิดเป็น 26% มีเงินลงทุน 6,323 ล้านบาท คิดเป็น 58% ของเงินลงทุนทั้งหมด โดยประเทศที่ลงทุนสูงสุด จีน 3 ราย ลงทุน 3,189 ล้านบาท ญี่ปุ่น 2 รายลงทุน 630 ล้านบาท และสหรัฐฯ 1 ราย ลงทุน 637 ล้านบาท ที่เหลือเป็นประเทศอื่น ๆ
“ถือเป็นสัญญาณที่ดีสำหรับประเทศไทยทั้งการส่งออก และการลงทุนภายในประเทศ แสดงให้เห็นถึงความเชื่อมั่นและศักยภาพของประเทศเรา ยืนยันรัฐบาลมุ่งสร้างความเข้มแข็งจากภายในประเทศ ส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากไทยเชื่อมโยงกับเศรษฐกิจโลก พร้อมมุ่งมั่นช่วยเหลือ สนับสนุนผู้ส่งออก นักลงทุน ให้มีพื้นที่แข่งขันได้ในเวทีโลก โดยตอบสนองนโยบายของรัฐบาล เพื่อสนับสนุนให้ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีรายได้สูง ประชาชนมีคุณภาพชีวิตที่ดี ทุกภาคส่วนเติบโตไปด้วยกันอย่างยั่งยืน” นายธนกรฯ กล่าว
นายธนกร กล่าวอีกว่า นายกฯ ติดตามและชื่นชมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่ได้นำแนวคิดโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ไปต่อยอดการพัฒนาเพื่อเป็นแนวทางในการสร้างมูลค่าเพิ่มแก่ผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาท้องถิ่นจากผู้ประกอบการในชุมชนต่างๆ ได้อย่างเป็นรูปธรรมยิ่งขึ้น หวังเป็นการพัฒนายกระดับเศรษฐกิจฐานรากของไทยให้สามารถออกสู่ตลาดสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ
โดยโครงการพัฒนาและส่งเสริมสินค้า OTOP สู่ตลาดสากล “โอทอปพรีเมียมโกอินเตอร์(OTOP Premium Go Inter)” ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ได้จัดทำเป็นไปตามแนวทางที่นายกฯ ให้ความสำคัญ รัฐบาลมีความยินดีที่โมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ได้แก่ เศรษฐกิจชีวภาพ (Bio Economy) เศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) และเศรษฐกิจสีเขียว (Green Economy) เป็นแกนหลักในการดำเนินงานเพื่อสร้างความยั่งยืนในตลาดสากลภายใต้การใช้ประโยชน์จากโอกาส สิ่งของ หรือผลิตภัณฑ์ที่มีอยู่ในท้องถิ่น สู่การสร้างมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม เพื่อตอบโจทย์ที่นานาประเทศกำลังให้ความสำคัญด้านการแก้ไขปัญหาการเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศ ส่งผลให้โลกเน้นการผลิตสินค้าที่เกิดคาร์บอนต่ำและไม่เกิดผลเสียต่อสิ่งแวดล้อม ส่วนนี้ถือเป็นโอกาสในการผลักดันสินค้าระดับท้องถิ่นไทยให้สามารถเป็นส่วนหนึ่งในตลาดนานาชาติได้เพิ่มมากยิ่งขึ้น
โดยรัฐบาลสนับสนุนการผลักดันให้สินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ หรือ OTOP (One Tambon One Product) มีส่วนในการขยายโอกาสแก่ผู้ประกอบการธุรกิจชุมชนที่สามารถสร้างผลิตภัณฑ์มีคุณภาพและมีศักยภาพสูงด้านการแข่งขันให้ง่ายต่อการเข้าถึงองค์ความรู้ใหม่ๆเพื่อเป็นแนวทางในการพัฒนาตนเองและธุรกิจ เข้าถึงนวัตกรรมเทคโนโลยีเพื่ออำนวยความสะดวกหรือให้คุณประโยชน์ด้านการผลิตและการบริการ อีกทั้งเพื่อแสวงหาแหล่งทุนและตลาดการค้า ต่อยอดผลิตภัณฑ์ภูมิปัญญาชุมชนให้เป็นที่รู้จักและเกิดการบริโภค เป็นที่นิยมอย่างกว้างขวางยิ่งขึ้น
นายธนกร กล่าวว่า นายกฯ เชื่อมั่นและชื่นชมศักยภาพของคนไทยทั้งด้านความคิดสร้างสรรค์และการพัฒนาคิดค้นผลิตภัณฑ์เพื่อสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับตนเองและชุมชนได้ โดยได้สั่งการเน้นย้ำให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมเป็นอีกหนึ่งแรงผลักดันในการเสริมสร้างศักยภาพด้านการแข่งขัน การควบคุมมาตรฐานสินค้า รวมไปถึงการประชาสัมพันธ์เผยแพร่องค์ความรู้ประสบการณ์ คำแนะนำ และโอกาสอย่างต่อเนื่อง เพื่อการพัฒนา ต่อยอด และเพิ่มโอกาสการสร้างพื้นที่ทางการตลาดสินค้าภูมิปัญญาชุมชนของผู้ประกอบการธุรกิจทั้งในระดับประเทศและในระดับสากลได้อย่างมีประสิทธิภาพ มั่นคง ทั้งนี้ นายกฯ ขอบคุณทุกฝ่ายในการร่วมชูโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG อย่างต่อเนื่อง และหวังให้การสนับสนุนสินค้า OTOP ในครั้งนี้ เป็นความสำเร็จในการการดำเนินงานเสริมสร้างและฟื้นฟูเศรษฐกิจไทยด้วยแนวด้านความยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรม โดยสามารถติดตามความเคลื่อนไหวและกิจกรรมต่างๆ ของโครงการสนับสนุนผู้ประกอบการกลุ่มสินค้า OTOP สู่ตลาดสากล ที่จัดโดยกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ(DITP) กระทรวงพาณิชย์ ผ่านช่องทางเฟสบุ๊ค https://www.facebook.com/otopgointer/
.
น้ำข้าวกล้องงอกผสมธัญพืช
ผลิตจากวัตถุดิบจากธรรมชาติ 100% ประกอบไปด้วย ข้าวกล้องงอกหอมมะลิแดง ,ข้าวโอ๊ต ,ข้าวก่ำงอก , ข้าวสาลี , ข้าวบาร์เลย์ , ลูกเดือย และ นมถั่วเหลือง ไม่ใส่สารกันบูดและไม่แต่งสีแต่งกลิ่น เข้มข้น คล้ายซุป มีรสหวานน้อย สามารถเปิดดื่มได้เลย หรือเพิ่มความอร่อยโดยการเทใส่ชามอุ่นทานร้อนๆ
จุดเด่นคือในขวดมีเม็ดธัญพืชอยู่ และสามารถเก็บได้ 1 ปีเต็มโดยไม่ต้องแช่เย็นเพราะใช้วิธีการ sterilization ช่วยยืดอายุ