Skip to content
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา
หน้าแรก > บ้านเมืองของเรา > “จิตกร” ซัด กมธ.การเมืองเลิกตอแหล!! จัดฉากถก ตร.ตั้งข้อหา 112  ทำโพลหมิ่นสถาบันฯ

บ้านเมืองของเรา

“จิตกร” ซัด กมธ.การเมืองเลิกตอแหล!! จัดฉากถก ตร.ตั้งข้อหา 112  ทำโพลหมิ่นสถาบันฯ

12 พฤษภาคม 2565

วันนี้ คณะกรรมาธิการพัฒนาการเมือง การสื่อสารมวลชน และการมีส่วนร่วมของประชาชน เชิญหน่วยงานและบุคคลที่เกี่ยวข้อง ร่วมหารือในญัตติซึ่งเสนอ โดย อมรัตน์ โชคปมิตต์กุล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และคณะกรรมาธิการ เกี่ยวกับการดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112  (กฎหมายหมิ่นกษัตริย์ฯ) ต่อกลุ่มเยาวชนที่จัดกิจกรรมทำโพลสำรวจความคิดเห็นประชาชนเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ และกรณีจัดกิจกรรมร่วมรับขบวนเสด็จ รวมถึงกรณีของ ทานตะวัน ตัวตุลานนท์ นักกิจกรรมซึ่งถูกดำเนินคดีและปฏิเสธสิทธิในการปล่อยตัวชั่วคราวในขณะนี้

โดยมีการเชิญตัวแทนจากทั้งสำนักงานตำรวจแห่งชาติ (กองบังคับการตำรวจนครบาล 1 และ สน.นางเลิ้ง), สำนักงานศาลยุติธรรม, สำนักงานอัยการสูงสุด, ผู้แทนเครือข่ายสิทธิมนุษยชน, ศูนย์ทนายความเพื่อสิทธิมนุษยชน, ตัวแทนกลุ่มราษฎร กลุ่มมังกรปฏิวัติ และกลุ่มทะลุวัง

ในการประชุมมีการซักถามและตอบข้อซักถามชี้แจงในหลายประเด็น โดยเฉพาะในเรื่องของเกณฑ์ที่เจ้าหนัาที่ตำรวจ อัยการ และศาล ใช้ในการพิจารณาว่าเรื่องใดเข้าข่ายเป็นความผิดตามมาตรา 112  และหลักเกณฑ์ในการให้หรือไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ว่ามีหลักเกณฑ์ในการพิจารณาเช่นไร

ในฝ่ายของผู้บังคับใช้กฎหมาย มีการชี้แจงจากทั้งตัวแทนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ อัยการ และสำนักงานศาลยุติธรรม ระบุว่าในทางปฏิบัติ เมื่อมีการกล่าวหาตามมาตรา 112 เกณฑ์ในการพิจารณาจะต้องดูที่เจตนาของผู้ถูกกล่าวหา ว่ามีเจตนาอาฆาตมาดร้ายต่อสถาบันกษัตริย์หรือไม่

ขณะที่การพิจารณาเงื่อนไขการให้หรือไม่ให้ปล่อยตัวชั่วคราว ตัวแทนจากสำนักงานศาลยุติธรรมระบุว่าโดยหลัก เมื่อมีการขอฝากขัง ผู้ต้องหามีสิทธิได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว ผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนมีอำนาจในการกำหนดเงื่อนไข รวมทั้งการติดกำไล EM ในแต่ละกรณีเป็นอำนาจของผู้พิพากษาเจ้าของสำนวนแต่ละคน โดยพิจารณาจากข้อเท็จจริงและรายละเอียดพฤติการณ์ในแต่ละกรณีไป

พร้อมยืนยันว่าการติดกำไล EM ไม่ใช่การลงโทษ แต่เป็นวิธีการเพื่อความปลอดภัย ที่ศาลกำหนดเพื่อไม่ให้ผู้ถูกกล่าวหามีพฤติการณ์ที่จะส่งผลกระทบต่อตัวคดี อีกทั้งการติด EM ยังเป็นหลักประกันให้ผู้ถูกกล่าวหาได้กลับบ้านโดยไม่ต้องมาอยู่ในเรือนจำ

ส่วนการเพิกถอนสิทธิประกันตัว เป็นคนละส่วนกับการสืบว่าผู้ต้องหาได้กระทำความผิดจริงหรือไม่ ซึ่งการถอนประกันอาจเป็นเพราะผู้พิพากษาเจ้าของสำนวน ตีความว่ามีการกระทำที่ผิดเงื่อนไขประกันที่ได้กำหนดไว้ได้ โดยการใช้ดุลพินิจ อาศัยเกณฑ์ตามแนวทางคำแนะนำของประธานศาลฎีกา แต่ก็ไม่ได้เป็นกรอบที่ตายตัวมีความยืดหยุ่น ให้ผู้ต้องหาแต่ละคนให้ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราวที่เหมาะสม

ตลอดการชี้แจง มีการโต้แย้งซักถามโดยตัวแทนของกลุ่มสิทธิมนุษยชนและกลุ่มเยาวชน ที่ตั้งคำถามถึงเกณฑ์ต่างๆ โดยระบุว่าจากที่มีการชี้แจงมาทั้งหมด ก็ยังไม่เห็นสิ่งที่เป็นเกณฑ์ในการพิจารณาทั้งการบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินคดี ตลอดจนการให้หรือไม่ให้ประกันตัวในแต่ละคดีคืออะไรกันแน่ และในหลายกรณียังเต็มไปด้วยความไม่ได้สัดส่วนอีกด้วย

“เมนู” สุพิชฌาย์ ชัยลอม ตัวแทนจากกลุ่มทะลุวัง ระบุว่า ตามหลักของกระบวนการยุติธรรมในคดีอาญา จะต้องสันนิษฐานไว้ก่อนว่าจำเลยที่ยังไม่ถูกพิพากษาจนถึงที่สุดเป็นผู้ที่ไม่มีความผิด จะปฏิบัติเสมือนเป็นผู้กระทำความผิดไม่ได้ กิจกรรมที่ตัวเองและเพื่อนทำจนถูกกล่าวหาตามมาตรา 112 คือการทำโพล ซึ่งเป็นการตั้งคำถาม สร้างพื้นที่ให้ประชาชนได้ร่วมแสดงความคิดเห็นโดยการติดสติ๊กเกอร์ เป็นการใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ซึ่งตัวเองยืนยันและพร้อมต่อสู้คดีว่าไม่ใช่ความผิด การกำหนดเงื่อนไขห้ามกระทำการใดๆ ตามที่ถูกกล่าวหา จึงเป็นเรื่องที่ไม่สมเหตุสมผล

ในส่วนของ “มายด์” ภัสราวลี ธนกิจวิบูลย์ผล แกนนำกลุ่มราษฎร ได้แสดงความคิดเห็นว่าปัจจุบันมีผู้ที่ถูกกล่าวหาด้วยมาตรา 112 จำนวนมาก ในแทบจะทุกกรณีที่มีการเอ่ยถึงสถาบันพระมหากษัตริย์ ทั้งที่ยังไม่มีการพิสูจน์เจตนา จนนำไปสู่คำถามว่ากระบวนการยุติธรรมวันนี้ใช้เกณฑ์อะไรกันแน่ ในการแจ้งข้อกล่าวหาว่าผิดตามมาตรา 112

พร้อมทั้งแสดงความคิดเห็นว่า ในสถานการณ์การเมืองที่ประชาชนตื่นตัวทางการเมือง มีการพูดถึงสถาบันพระมหากษัตริย์กับความเกี่ยวข้องทางการเมืองสูงมาก ควรจะต้องมีพื้นที่ปลอดภัยให้ประชาชนพูดถึงได้ ในเมื่อสถาบันพระมหากษัตริย์ก็เป็นหนึ่งในสถาบันใต้รัฐธรรมนูญเหมือนกัน

การบังคับใช้ 112 จำเป็นต้องมีหลักเกณฑ์ที่แน่นอน ชัดเจน สมเหตุสมผล ขยายความให้ประชาชนได้เข้าใจอย่างกระจ่าง ว่าบังคับใช้อย่างไร เหมาะสมหรือไม่ และให้ความเป็นธรรมกับผู้ถูกกล่าวหา ให้ได้ออกมาต่อสู้คดีอย่างเป็นธรรมก่อน

“การบังคับใช้มาตรา 112 เป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อนมากในช่วงเวลาเช่นนี้ ผู้บังคับใช้กฎหมายต้องคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพประชาชนเป็นหลักก่อน เพราะการกล่าวหาทางกฎหมายเช่นนี้ทำให้เกิดการแบ่งแยกทางสังคม ซึ่งทั้งตำรวจ อัยการ กระบวนการยุติธรรม ต้องยอมรับความจริงว่าตัวเองกำลังเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้สังคมแบ่งเป็นสองฝ่าย” ภัสราวลีก ล่าว

ในส่วนของ ปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะสมาชิกกรรมาธิการ ระบุว่าสถานการณ์การบังคับใช้มาตรา 112 จนถึงวันนี้ มีคนถูกดำเนินคดีถึงร้อยกว่าคดีแล้ว และกำลังทำให้เยาวชนจำนวนมากถูกผลักให้เป็นคนผิดเพียงเพราะมีความคิดเห็นทางการเมืองแบบหนึ่งหรือเพียงตั้งคำถาม โดยไม่มีพื้นที่ปลอดภัยให้พูดคุยเรื่องนี้ได้ สิ่งที่น่ากังวลคือหากสถานการณ์เป็นเช่นนี้ไปเรื่อยๆ สังคมจะยิ่งแตกร้าวมากขึ้น

“ท่านปฏิบัติต่อเยาวชนเหล่านี้ราวกับพวกเขาเป็นนักโทษคดีฆ่าข่มขืนต่อเนื่อง ทั้งที่จริงเป็นเพียงเยาวชนที่ออกมาแสดงความคิดเห็น ยิ่งมีการดำเนินคดีตามกฎหมายอย่างไม่เป็นธรรมเช่นนี้มากๆ ก็ยิ่งไม่อาจทำให้เยาวชนมีความรักและศรัทธาในสถาบันพระมหากษัตริย์เพิ่มขึ้น และกลับจะยิ่งรู้สึกว่าเป็นฝั่งตรงกันข้ามมากขึ้นด้วย” ปดิพัทธ์กล่าว

ปดิพัทธ์ ยังกล่าวต่อไป ว่าการดำเนินคดีด้วยมาตรา 112 ทุกวันนี้เป็นไปอย่างไม่มีมาตรฐาน เป็นเครื่องมือทางการเมือง ที่ทั้งตำรวจ อัยการ และศาลต่างก็ต้องเหนื่อย ทั้งที่รู้ว่าอาจจะไม่ผิดแต่ก็ต้องจับและดำเนินคดีไว้ก่อน สุดท้าย ถ้ากฎหมายนี้ยังคงเต็มไปด้วยความไม่เป็นธรรมเช่นนี้ ย่อมจะเป็นผลเสียต่อประเทศทั้งในระยะสั้นและระยะยาวอย่างแน่นอน

แชร์กับเพื่อน

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

20 พฤษภาคม 2565

อยากแลนด์สไลด์ต้องยุบสภา-เลือกตั้งใหม่…จะก้าวไปข้างหน้าหรือถอยหลัง

อ่านต่อ
20 พฤษภาคม 2565

เปิดสูตร ส.ส.พึงมี ปั้นพรรคสำรองเฟส2

อ่านต่อ
20 พฤษภาคม 2565

ดึงสติ “เสื้อแดง”

อ่านต่อ
18 พฤษภาคม 2565

‘เอ้’ หาเสียงห้วยขวาง-พร้อมทุ่มเทชีวิตแก้น้ำท่วม-รถติด-ฝุ่นพิษให้คนกรุง

อ่านต่อ
18 พฤษภาคม 2565

ข้อห้ามในการเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครและสมาชิกสภากรุงเทพมหานคร 

อ่านต่อ
18 พฤษภาคม 2565

กรุงเทพจมน้ำ เพราะเรา “คิดแบบเดิม ทำแบบเก่า”

อ่านต่อ
Facebook
Youtube
Line
บริษัทบลูสกายแชนแนล
  • 2170 อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ชั้น 8
    แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
    กรุงเทพมหานคร 10310
  • 02-308-0020
line-logo-100
Copyright © 2021