ผู้สื่อข่าวได้สอบถาม นายอันวาร์ สาและ ถึงผลของการประชุมพรรคเมื่อวันอังคารที่ 23 ก.พ. เพื่อพิจารณากรณีการลงมติไม่ไว้วางใจนั้น ผลเป็นอย่างไร?
นายอันวาร์ สาและ ตอบว่า ตนเห็นว่าไม่มีการพิจารณาถึงประเด็นนี้ เลยเดินออกจากห้องประชุมไปก่อนตามที่สื่อเสนอข่าว แต่วันรุ่งขึ้นกลับพบว่านายราเมศ รัตนเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้ออกมาให้ข่าว ซึ่งขัดแย้งกันในสาระสำคัญของข่าวที่นายราเมศได้แถลงเอง ซึ่งผมไม่ได้ถือว่าเป็นสาระสำคัญเพราะคุณราเมศ อายุยังน้อย ประสบการณ์ในสภาฯก็ยังไม่มี ผมอยากสอนว่า หากจะเล่นการเมือง ต้องยึดถือของประเทศชาติ และประชาชนเป็นหลัก และต้องแยกแยะให้ออกว่า ระหว่างรัฐธรรมนูญกับมติพรรค สิ่งใดสำคัญกว่ากัน
รัฐธรรมนูญมาตรา 114 ระบุว่า “สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและสมาชิกวุฒิสภาย่อมเป็นผู้แทนปวงชนชาวไทย ไม่อยู่ในความผูกมัดแห่งอาณัติมอบหมาย หรือความครอบงําใด ๆ และต้องปฏิบัติหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของประเทศชาติและความผาสุกของประชาชนโดยรวม โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์”
จริงหรือไม่ว่า? ข้อบังคับพรรคเกิดจากพรรคการเมือง แต่อย่าลืมว่าพรรคการเมืองนั้นเกิดจากรัฐธรรมนูญ
ดังนั้นการที่นายราเมศ ตอบคำถามผู้สื่อข่าว เมื่อถูกถามว่า “พรรคประชาธิปัตย์ยึดมั่นในระบอบประชาธิปไตย และรัฐธรรมนูญ ก็ให้เอกสิทธิ์ส.ส. ในการลงมติ” มีความเห็นอย่างไร นายราเมศ ตอบขึ้นมาเองว่า “ยอมรับ ว่าการที่รัฐธรรมนูญให้เอกสิทธิ์กับส.ส. นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้อง แต่ทุกคนต้องยึดถือมติ และข้อบังคับพรรค เพื่อให้พรรคสามารถดำรงอยู่ได้” การตอบเช่นนี้ ส่วนตัวผมคิดว่าเป็นการทำให้ภาพพจน์พรรคเสียหาย แสดงว่าพรรคประชาธิปัตย์ยอมทำทุกอย่างแม้ว่าจะฝืนความรู้สึกของประชาชน ก็เพียงเพื่อประโยชน์ในการอยู่รอดของพรรคเท่านั้นหรือ?
ผมจึงขอให้นายราเมศกลับไปคิด ในฐานะนักกฎหมาย ซึ่งควรจะมีหลักมีเกณฑ์ เพราะถ้ามติพรรค และข้อบังคับพรรคมีความสำคัญมากกว่ารัฐธรรมนูญ แล้วเราจะอยู่กันได้อย่างไร และขอเตือนว่าทีหลังหากจะพูดอะไรนั้น ขอให้ใช้สมองคิดในหลายๆแง่ หลายๆมุม เพราะประชาชนเค้าไม่โง่
นอกจากนี้ยังตั้งคำถามมาถึงผมอีกว่า หากผมได้เป็นหัวหน้าพรรค แล้วสมาชิกทำแบบนั้นบ้าง ตนจะรู้สึกอย่างไร?
เรื่องนี้ก็เช่นกัน ก่อนพูดคุณใช้สมองคิดหรือไม่? จะให้ผมตอบเพื่อให้ผมมีปัญหากับหัวหน้าอย่างนั้นหรือ? อยากให้กลับไปอ่านทบทวนคำวินิจฉัยของผมหลายๆรอบ ก็จะเข้าใจเองว่า ผมไม่เคยตำหนิหัวหน้าพรรคเลย และคุณราเมศบอกว่าจะมีการตั้งกรรมการสอบส.ส. ทั้ง 3 คน เพื่อให้ดำเนินการให้แล้วเสร็จภายใน 15 วัน และขู่ผมว่าเรื่องนี้ไม่จบแน่ ส่วนตัวผมรอคำสั่งจากพรรค ที่จะให้ผมชี้แจง และหากผมชี้แจงแล้วเกิดความเสียหายต่อบุคคลในพรรค คุณเองก็เป็นหนึ่งในผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ซึ่งผมได้เตือนไปแล้ว
.