เมื่อวันที่ 2 พฤศจิกายน 2564 ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังร่วมหารือและการกล่าวถ้อยแถลงต่อที่ประชุมระดับผู้นำ (World Leaders Summit) ในการประชุมรัฐภาคีกรอบอนุสัญญาสหประชาชาติว่าด้วยการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ สมัยที่ 26 (UNFCCC: COP26) ว่า ได้มีโอกาสพบปะพูดคุยกับผู้นำประเทศต่างๆ ซึ่งหลายท่านรู้จักและคุ้นเคยกันดี ในหลายประเด็น ได้พูดคุยกันถึงเรื่องความสัมพันธ์ที่ดีที่มีกันมาอย่างยาวนาน เพราะหลายคนก็ไม่ได้พบกันหลายปีพอสมควร แต่หลายคนก็อยู่ด้วยกัน โดยเฉพาะประเทศในภูมิภาคอาเซียน
“อย่างไรก็ตาม ผู้นำประเทศต่างๆ เขาพูดกับผมอย่างเดียวว่าพร้อมที่จะร่วมมือกับไทย พร้อมที่จะเดินหน้าในมิติต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการค้าการลงทุน แม้แต่ในกลุ่มประเทศอาเซียน อย่างเวียดนาม ได้ยืนยันว่าจะต้องดำเนินการทุกอย่างให้เร็วขึ้น โดยเฉพาะการเจรจาทวิภาคีและทวิภาคี หรืออย่างเกาหลีใต้ เยอรมนนี และได้ใช้โอกาสในการพูดคุยเชิญชวนบรรดาผู้นำประเทศต่างๆ มาเข้าร่วมประชุมกรอบความร่วมมือทางเศรษฐกิจในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก หรือการประชุมเอเปค ที่ไทยจะเป็นเจ้าภาพการประชุมในปี 2565 ซึ่งถือเป็นโอกาสอันดีเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งก่อนหน้านี้ในการประชุมอาเซียนที่ผ่านมาก็ได้มีการเรียนเชิญไปบ้างแล้ว
การเดินทางเข้าร่วมประชุม COP26 ในครั้งนี้ที่เมืองกลาสโกว์ สหราชอาณาจักร ถือว่าคุ้มค่า และเกิดประโยชน์กับประเทศและประชาชนไทย ทุกคนที่เดินทางมาทำงานกันอย่างเต็มที่ รวมทั้งเจ้าหน้าที่ไทยที่อยู่ในต่างประเทศ กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ก็ได้มีการเตรียมการข้อมูลต่างๆ ไว้เป็นอย่างดี ได้มีการบูรณาการงานตามที่รับนโยบายมา ซึ่งนโยบายของนายกรัฐมนตรีให้กำหนดให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งผมได้กำหนดกรอบและนโยบายลงมา โดยเป็นการบูรณาการร่วมกับกระทรวงคมนาคม กระทรวงมหาดไทย กระทรวงอุตสาหกรรม กระทรวงพลังงาน ตามแผนยุทธศาสตร์ที่เราได้ออกมาแล้ว สิ่งเหล่านี้ตนต้องไล่ติดตามทั้งหมด โดยจะต้องทำตามกรอบที่กำหนดให้ได้ทั้งหมดก็เพื่อลูกหลานของเรา และคนทั้งโลก” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว