Skip to content
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา
  • หน้าแรก
  • รายการสถานี
    • อรุณสวัสดิ์ ฟ้าวันใหม่
    • เล่าข่าวเด่น เล่นข่าวดัง
    • ฟ้าวันใหม่นิวส์
    • สนามข่าวโซเชียลฯ
    • ข่าวฟ้ายามเย็น
    • บ้านเมืองของเรา
    • ฟ้าทะลายโจร
  • การเมือง
  • เศรษฐกิจ-สังคม
  • บทความ
    • บทความพิเศษ
    • ประวัติศาสตร์ ศิลปะวัฒนธรรม
    • วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
  • ไลฟ์สไตล์
  • ซื้อสินค้า
  • ผังรายการ
  • ติดต่อโฆษณา

การเมือง

“พนิต”สะกิด ปชป.ยอมรับความจริง อย่าให้พังแล้วถึงตื่น แนะถอดบทเรียน-รื้อทุกแผน ฝากให้คิดร่วมรัฐบาลมา 3 ปีเป็นคุณหรือโทษ

23 พฤษภาคม 2565

เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม 2565 นายพนิต วิกิตเศรษฐ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) โพสต์ข้อความผ่านเพจส่วนตัว “Panich Vikitsreth – พนิต วิกิตเศรษฐ์” เรื่อง “การเลือกตั้งครั้งนี้ คือ Wake up call ยอมรับความจริง อย่าให้พังแล้วถึงตื่น” ว่า การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. และ ส.ก. เมื่อวันที่ 22 พ.ค. ที่ผ่านมา ถือว่าประชาชนตื่นตัวกันออกมาใช้สิทธิค่อนข้างมาก ส่วนหนึ่งอาจจะมาจากการที่เราว่างเว้นจากการเลือกตั้งกันมานานถึง 9 ปี ซึ่งต้องขอขอบคุณประชาชนทุกคนที่ออกมาใช้สิทธิ มาร่วมกันกำหนดอนาคตของ กรุงเทพฯ รวมถึงขอขอบคุณทุกคะแนนเสียงที่มอบให้กับพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ว่าจะเป็นในส่วนของผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.และผู้สมัคร ส.ก.ของพรรค รวมทั้งต้องขอบคุณ นายสุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม และ ผู้สมัครส.ก. ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ทำงานอย่างหนัก ภายใต้สถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยเท่าใดหนัก

สำหรับผลการเลือกตั้งที่ออกมาในส่วนของ #พรรคประชาธิปัตย์ แม้เราจะได้ ส.ก.เข้ามาจำนวน 9 คน และต่างจากการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 62 ที่ไม่ได้ ส.ส.แบบแบ่งเขต แม้แต่คนเดียว แต่ผมไม่คิดว่า เราประสบความสำเร็จแต่อย่างใด ตรงกันข้าม มันเป็นสัญญาณเตือนให้เราต้องรีบกลับมาทบ ทวนอะไรบางอย่าง

ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรค แม้จะได้อันดับสอง และต่างจากอันดับสาม สี่ และห้า ไม่มากนัก แต่อย่าลืมว่า เราเป็นแชมป์เก่าที่การเลือกตั้งผู้ว่าฯกทม. 3 ครั้งหลังสุดก่อนหน้านี้ชนะมาโดยตลอด และไม่เคยได้คะแนนต่ำกว่า 5 แสน แต่ครั้งนี้ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของเรากลับได้อยู่ที่ราวๆ 2.5 แสนเท่านั้น เช่นเดียวกับ ส.ก. ที่ครั้งนี้เราเหลือเพียง 9 คน จากที่เคยได้มากถึง 45 คน

หรือหากเอาไปเทียบกับผลการเลือกตั้ง ส.ส.เมื่อปี 62 ที่ อดีตนายกฯอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ประกาศไม่สนับสนุน พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา แม้พรรคจะไม่ได้ ส.ส.ในกทม.เลย แต่ยังได้คะแนนรวมทั้งหมด 4.7 แสน มากกว่าที่ผู้สมัครผู้ว่าฯกทม.ของพรรคได้รับในครั้งนี้

การเลือกตั้งครั้งนี้ ผมคิดว่า เรามีเวลาเตรียมตัวพอสมควร และพูดได้ว่านานกว่าผู้สมัครทุกคนและทุกพรรคการเมืองก็ว่าได้ ตั้งแต่หม่อมราชวงศ์สุขุมพันธุ์ บริพัตร พ้นจากตำแหน่งผู้ว่าฯกทม. ตั้งแต่ 18 ต.ค. 59 แต่เราเหมือนพึ่งเริ่มเตรียมตัวไม่นาน ประกอบกับอีกหลายปัจจัยที่ทำให้ผลการเลือกตั้งออกมาแบบนี้ ซึ่งผมคิดว่า พรรคไม่ควรปล่อยผ่านมา โดยเฉพาะบทเรียนการนำ ‘คนนอก’ และ ‘คนใหม่’ มาเป็นตัวแทนของพรรค ที่เห็นแล้วว่า ไม่สามารถหลอมรวมคนในพรรคได้ ทำให้การประสานงานและความร่วมมือกันในแต่ละเขตไม่ดีเท่ากับ ‘คนใน’ ด้วยกันเองที่มีประสบการณ์ และความสามารถจำนวนมาก

ยังมีส่วนหนึ่งที่เราโชคไม่ดี ที่ระหว่างเลือกตั้งเจอข่าวด้านลบจนส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของพรรค แต่อย่าลืมว่า ก่อนหน้านี้ผู้บริหารของพรรคแสดงความมั่นใจมาตลอดว่า มีผลงานมากมายจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล และยังมั่นใจในแฟนคลับพันธุ์แท้ของพรรค แต่เหตุใดภาพรวมการเลือกตั้งครั้งนี้คะแนนที่ได้รับกลับหายไปมาก

นอกจากนี้ ยังพบว่าชาวกรุงฯไม่เอาฝ่ายรัฐบาล แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าที่จะเอาทักษิณ เพราะพวกเขาเชื่อมั่นในตัวว่าที่ ผู้ว่าฯกทม.คนใหม่ ที่อยากเห็นการเมืองแบบใหม่ก้าวข้ามความขัดแย้ง ขณะเดียวกัน ยังพบว่ากระแสพรรคพลังประชารัฐ ในกรุงเทพฯ ทั้งที่ มีส.ส.กทม. มากที่สุด จำนวน ส.ก. ยังหายไปอย่างมีนัยยะสำคัญอีกด้วย

ผมคิดว่า พรรคเอาควรนำผลการเลือกตั้งครั้งนี้มาทบทวนอย่างจริงจัง ว่าแนวทางที่เดินอยู่ทุกวันนี้มันช่วยกอบกู้พรรค หรือกำลังทำให้พรรคถอยหลังลงเรื่อยๆ แม้แต่การเป็นพรรคร่วมรัฐบาล มา3 ปีกว่าฝากชวนคิด และประเมินว่าเป็นคุณหรือเป็นโทษหรือไม่

ก่อนการเลือกตั้ง ส.ส.ที่จะเกิดขึ้นอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า หากเรายังยึดแนวทางเดิม โอกาสที่เราจะสูญพันธุ์ใน กทม.ซ้ำสอง ย่อมเกิดขึ้นได้อีกหรือไม่ ดังนั้น เราจำเป็นต้องเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ ด้วยการรื้อทุกแผน ปรับปรุงทุกอย่าง เพราะการเลือกตั้งในสนามกทม. ถือว่า ‘wake -up call’ หรือ ‘อย่ารอให้พังก่อนตื่น’

ยืนยันว่า ผมหวังดีและรักพรรคประชาธิปัตย์ อยากให้พรรคเป็นที่พึ่งพิงให้กับชาวกทม. และคนทั้งประเทศ ได้ จึงจำเป็นต้องพูดเรื่องนี้ เพราะไม่อยากรอให้พรรคเสียหายไปกว่านี้แล้วค่อยจึงลุกขึ้นมาทำอะไรกัน ในวันที่ยังมีเวลาจึงต้องเร่งทำอะไรบางอย่าง ก่อนที่มันจะสายเกินไป

แชร์กับเพื่อน

  • Facebook iconFacebook
  • Twitter iconTwitter
  • LINE iconLine

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

24 มิถุนายน 2565

‘กทม.’แจ้ง7สถานที่ ใช้ชุมนุมสาธารณะเปิดช่องให้ปชช.แสดงออก

อ่านต่อ
23 มิถุนายน 2565

‘กรณ์’ขยี้ต่อ!! ย้ำน้ำมันแพง-ของแพง เป็นอำนาจก.พาณิชย์

อ่านต่อ
23 มิถุนายน 2565

‘นิพนธ์’ฉะ‘อันวาร์’ ไล่ไปที่ชอบๆ

อ่านต่อ
22 มิถุนายน 2565

‘อันวาร์’โวยลั่นโดนผู้มีอิทธิพลในพรรค ตัดชื่อเป็นผู้สมัครส.ส.ปัตตานี

อ่านต่อ
22 มิถุนายน 2565

“จุรินทร์”สวน “กรณ์” กล้าในสิ่งที่ควร รู้ไม่จริงอย่าพูด หาเสียงต้องมีความรับผิดชอบ ย้ำค่ากลั่น น้ำมัน มีกฎหมายเฉพาะ มีคณะกรรมการดูแล “พาณิชย์”ดูแลเรื่องปิดป้าย คุมหัวจ่าย จัดการเรื่องโก่งราคา

อ่านต่อ
16 มิถุนายน 2565

ตร.รวบ”นารา เครปกะเทย-หนูรัตน์-มัมดิว” โฆษณาล้อเลียนสถาบันในลาซาด้า

อ่านต่อ
Facebook Youtube Line
บริษัทบลูสกายแชนแนล
  • 2170 อาคารกรุงเทพทาวเวอร์ ชั้น 8
    แขวงบางกะปิ เขตห้วยขวาง
    กรุงเทพมหานคร 10310
  • 02-308-0020
line-logo-100
Copyright © 2021